เปิดคดี คสช.แจ้งความ ธนาธร-ปิยบุตร โทษสูงสุดจำคุก 7 ปี

หลังจากที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความถูกหมายเรียกจากตำรวจ ปอท.ให้ไปเป็นพยานในคดีที่ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความผู้ดูแลเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ในคดีเผยแพร่การอ่านแถลงการพรรคหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ  ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล (โทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

นอกจากนี้ยังมีคดีที่วันที่ 3 เม.ย. น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊  นักร้อง แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ให้ตรวจสอบคลิปที่นายปิยบุตร พูดในงานเสวนาวิชาการเมื่อปี 2556 ว่าขัดต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้มาเขียนข้อความในคอมเม้นต์แซวนายปิยบุตรว่า ผมมีสองคดีแล้ว คุณมีเท่าไหร่ แข่งกันมั้ย?

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ รวบรวมข้อมูลคดีและเรื่องที่ถูกร้องเรียนต่อ กกต.บางส่วน

1. คดีที่ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความนายธนาธร, นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และ น.ส. จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ร่วมกันจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านทางเฟซบุ๊กพรรคอนาคตใหม่และเฟซบุ๊กของนายธนาธร วิจารณ์พลังดูดของ คสช.เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 61 เป็นความผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิด ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (โทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ)

สถานะทางคดี – 27 ก.พ. นายธนาธร เดินทางไปพบพนักงานอัยการ และอัยการนัดพิจารณาคำสั่งคดีในวันที่ 26 มี.ค. ก่อนจะเลื่อนเป็น วันที่ 26 เม.ย. 62 เพื่อสอบสวนเพิ่ม 3 ประเด็น ทั้งพยานบุคคล,เอกสาร และหนังสือร้องขอความเป็นธรรม

ภาพ : กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD)

2. คดีที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความนายธนาธร ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ร่วมกันทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน (โทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี)
และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม (โทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

คดีนี้เป็นคดีเมื่อปี 2558 กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมรำลึก ครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ต่อมาเจ้าหน้าที่ สน.ปทุมวัน ได้เข้าควบคุมตัวนักศึกษาบางส่วน โดยที่เหลือได้มาชุมนุมต่อหน้าโรงพัก เมื่อการชุมนุมยุติ ตำรวจและทหารออกติดตามตัวผู้ที่มีหมายจับ โดยจังหวะที่จะควบคุมตัว นายรังสิมันต์ โรมและพวก ได้มีรถตู้มารับไป โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า รถคันดังกล่าวเป็นของ นายธนาธร นำมาซึ่งการออกหมายเรียกในครั้งนี้

สถานะทางคดี – ออกหมายเรียก นายธนาธรพบพนักงานสอบสวน ที่ สน.ปทุมวัน วันที่ 6 เม.ย. เวลา 10.00 น.

ทั้งนี้ นอกจากคดีความแล้ว นายธนาธร ยังถูกยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. อีกหลายกรณี เช่น
– ขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีการประกาศยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และประกาศจะสานต่อภารกิจ 2475
– ขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกยุบพรรคประกาศโอนคะแนนให้
– ขอให้ กกต. พิจารณาการขาดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ของนายธนาธร จากการเป็นผู้ถือหุ้นสื่อ กรณีโอนหุ้น บ.วี-ลัค มีเดีย หลังการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.