เปิดแฟ้ม 7 คดีดัง “โทษประหาร” บ้างตาย บ้างรอชดใช้กรรม

ย้อน 7 คดีดัง ที่มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต พร้อมเปิดแฟ้มเหตุการณ์นักโทษชาย ที่ถูกประหารชีวิตก่อนหน้า นช.มิกซ์ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว

9 ปี ก่อนการประหาร “มิกซ์” ธีรศักดิ์ หลงจิ ผู้ต้องขังคดีฆ่าผู้อื่น อย่างโหดร้ายทารุณเพื่อชิงโทรศัพท์มือถือ ย้อนไปเมื่อ 24 สิงหาคม ปี2552 กรมราชทัณฑ์ประหารนักโทษชายคดียาเสพติด 2 คน คือ นช.จิรวัฒน์ พุ่มพฤกษ์ และ นช.บัณฑิต เจริญวานิช ด้วยการฉีดยาพิษประหาร

ภาพจาก sanook

นักโทษคดีค้ายาเสพติด 2 คน ถูกทั้ง 3 ศาลตัดสินให้ประหารชีวิต เมื่อปี 52

29 มีนาคม ปี 2544 นช.จิรวัฒน์ ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. จับกุมขณะขับรถผ่านด่านตรวจสลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ค้นรถพบยาบ้า 100,000 เม็ด และขยายผลจับกุม นช.บัณฑิต ขณะขับรถมารับยาบ้าที่ ซีพีทาว์เวอร์ ถนนเพชรเกษม ก่อนนำไปตรวจค้นบ้านพักพบยาบ้านอีก 14,215 เม็ด พร้อมปืนอีกหลายกระบอก ทั้ง 3 ศาล คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต นช.จิรวัฒน์ และนช.บัณฑิต ก่อนมีการยื่นฎีกาเพื่อขออภัยโทษ และฎีกาตก เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ปี 2552

โดยการประหารชีวิต นักโทษสองคนนี้ ทำให้สำนักงานผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องทันที ให้รัฐบาลไทยยกเลิกโทษประหารชีวิต และให้หาทางจัดตั้งมาตรการห้ามการลงโทษประหารชีวิต ตามมติข้อตกลงของสมัชชาสหประชาชาติ

(เกม วันชัย ผู้ต้องหาคดี ขมขื่นฆ่านักเรียน ม.2 บนรถไฟ)

“ไอ้เกม” ข่มขืนฆ่า นักเรียนม.2 บนขบวนรถไฟแล้วโยนศพทิ้งอำพรางคดี

แม้คดีนี้จะผ่านไปนานกว่า 5 ปีแล้ว แต่เชื่อว่า ยังเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนใจกับทุกคนในสังคม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2557 นายวันชัย แสงขาว หรือ เกม และนายณัฐกรณ์ ชำนาญ หรือ หนึ่ง ร่วมกันข่มขืนฆ่า นักเรียน ม.2 บนขบวนรถไฟ ขบวนที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ แล้วโยนศพออกจากหน้าต่างรถไฟเพื่ออำพรางคดี

นร.ม.2 หายไปอย่างไร้ร่องรอยระหว่างเดินทางกลับจากเยี่ยมญาติ จ.สุราษฎร์ธานี โดยสารรถไฟตู้นอนมากับพี่สาวและน้องๆ อีก 2 คน ญาติและเจ้าหน้าที่ตามหาทั่วขบวนรถแต่ก็ไม่พบ จึงนำไปสู่ข้อสันนิษฐานในทางไม่ดี ญาติและตำรวจช่วยกันตามหา นร.ม.2 ตามเส้นทางรถไฟ กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 7 ก.ค.2557 พบศพเด็กหญิงเคราะห์ร้ายในสภาพนอนเปลือยกายอยู่ริมป่าหญ้าข้างทางรถไฟ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง

และวันที่ 30 ก.ย. 2557 ศาลจังหวัดหัวหินได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตนายเกม ส่วนนายหนึ่งนั้น พิพากษาจำคุก 6 ปี ทั้ง 2 คน ยื่นอุทธรณ์คดี

ต่อมาวันที่ 14 ก.ย. 2558 ศาลจังหวัดหัวหินได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษประหารชีวิตนายเกม ส่วนนายหนึ่งไม่ได้ยื่นอุทธรณ์รับโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 6 ปี รับสารภาพศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 4 ปี

วันนี้คดีได้ถึงที่สุดแล้ว นายเกมถูกจองจำอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง รอกระบวนการตามโทษประหารชีวิต และไม่ได้ขอใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมคือยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 60 วัน นับแต่วันมีคำพิพากษา

(ขอบคุณภาพจาก เพจ ตำนานคดีดัง และเฟซบุ๊ก Kanlayanatam)

โทษประหารหมอวิสุทธิ์ ฆ่าหมอผัสพร ปัจจุบันพ้นโทษ เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

อีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญ ที่มีความน่าสนใจและเป็นข่าวคึกโครมและสังคมในช่วงเวลาเกือบ 20 ปีก่อนคดีฆ่าหั่นศพโดยฆาตกร นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ หัวหน้าภาควิชาสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งในอดีตถูกเรียนขานนามว่า “อาจารย์หมอ” แล่เนื้อชำแหละศพภรรยา พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ หัวหน้ากองสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร หรือโรงพยาบาลรถไฟ (มักกะสัน) เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2544 โดยก่อนเกิดเหตุสลดนี้ ก่อนหน้ามีเรื่องการฟ้องหย่าที่มีปัญหาขัดแย้งกันมานาน

ทั้งนี้ หลังจากที่คดีดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จนถึงชั้นฎีกา ศาลฎีกาได้พิพากษายืน ประหารชีวิตสถานเดียวในวันที่ 25 ก.ค.2550 ต่อมาหมอวิสุทธิ์ ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ โดยได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต และเนื่องจากปฏิบัติตัวดี ในวันที่ 4 สิงหาคม 2557 หมอวิสุทธิ์ได้รับอิสรภาพ นับรวมระยะเวลาที่หมอวิสุทธิ์ ถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี 9 เดือน
หลังจากที่ หมอวิสุทธิ์ ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เรื่องราวก็ดูจะค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับกาลเวลา จนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2558 หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้บวชที่วัดปทุมวนาราม ได้รับฉายา “พระถิระปุญโญ” โดยโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของหมอวิสุทธิ์ กับชีวิตใหม่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์จำนวนมาก ล่าสุดยังไม่เป็นที่ยืนยันว่าได้ลาสิกขาบทแล้วหรือไม่

(แฟ้มภาพ) คดีชิงไอโฟน นักศึกษา มศว. มกราคม ปี 2560

ประหารก่อนรับโทษจำคุกตลอดชีวิต 2 วัยรุ่นฆ่าชิงไอโฟน นักศึกษา มศว.

เหตุเกิดเมื่อ 4 มกราคมปี 2560 นายกิตติกร หรือ ตั้ม วิกาหะ และนายสุพัฒชัย หรือเอ็กซ์ จันทร์ศรี ร่วมกันใช้อาวุธมีดแทง นายวศิน เหลืองแจ่ม บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) จนเสียชีวิต บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เขตลาดพร้าว แล้วชิงเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 6 ราคา 26,000 บาท ของผู้ตายหลบหนีไป

โดยเมื่อ 31 พฤษภาคม ปี 2560 ศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) พิพากษาให้ ประหารชีวิต จำเลยทั้งสองสถานเดียว เนื่องจากคดีนี้จำเลยจำนนต่อหลักฐานและวงจรปิด ขณะที่พฤติกรรมเป็นภัยร้ายแรง ทำผิดหลายครั้งยากที่จะปรับแก้นิสัย

ต่อมาเมื่อ 4 เมษายน ปี 2561 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้จำคุกตลอดชีวิต นายกิตติกร และ นายสุพัฒชัย เนื่องจากเห็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพมาโดยตลอด ทั้งชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน และชั้นพิจารณา อีกทั้งยอมรับผ่านสื่อมวลชน แสดงให้เห็นถึงการสำนึกผิด มีเหตุบรรเทาโทษ สมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้ตลอดชีวิต คดีนี้ทางครอบครัวเหยื่อไม่ยื่นฎีกา ปล่อยให้ทางจำเลย ซึ่งอยู่ในเรือนจำตัดสินใจเองว่า จะฎีกาต่อสู้คดีหรือไม่

ย้อนคดีตัดสินประหารชีวิต “หมอนิ่ม” สั่งตาย “เอ็กซ์ จักรกฤษณ์”

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ตุลาคม 2556 “เอ็กซ์” จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติไทย วัย 40 ปี ได้ถูกมือปืนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบก่อนจะกระหน่ำยิงใส่ ขณะขับรถปอร์เช่ ทะเบียน ชส 2223 แล้วได้วิ่งชะลอก่อนจะหยุดลงที่ หน้าปากซอยรามคำแหง 106 โดยเจ้าตัวยังหายใจรวยรินกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมาตำรวจสามารถรวบตัวมือปืนได้ 1 คน คือ นายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 33 ปี ที่ จ.กระบี่ โดยได้ค่าจ้าง 1 แสน บาท พร้อมกับซัดทอดว่า น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล หรือเจ๊แหม่ม อายุ 46 ปี “เจ๊แหม่ม” ย่านรามคำแหงเป็นผู้ว่าจ้าง ตำรวจจึงได้เข้ารวบตัวเจ๊แหม่มในทันที โดย “เจ๊แหม่ม” สารภาพว่าบุคคลที่จ้างวานให้สังหารเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก “หมอนิ่ม” หรือ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และมารดา คือ นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 72 ปี ส่วน ทนายอีส หรือ นายสันติ ทองเสม อายุ 28 ปี ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จัดหามือปืนได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ขณะที่คนขับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ประกบยิง คือ นายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 33 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ในเวลาต่อมา

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียวหมอนิ่ม และนายสันติ ส่วนมือปืน และคนขับจักรยานยนต์ ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนนางสุรางค์ มารดา หมอนิ่ม ให้ยกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้หมอนิ่ม และทนายอี๊ดประกันตัว โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท

โดยต้องจับตาลุ้นคำพิพากษาอีกชั้น วันที่ 26 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. ศาลอุทธรณ์นัดนัดฟังคำพิพากษาคดี ที่แพทย์หญิงนิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม พร้อมพวกรวม 5 คน จ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้เลื่อนฟังคำพิพากษาวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากยังเรียงคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ

บ้านที่เกิดเหตุ คดีฆ่ายกครัว จ.กระบี่ กรกฎาคม ปี2560

ประหาร “บังฟัต” กับพวกรวม 6 ฆ่ายกครัว “ครอบครัวผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง” จ.กระบี่

เหตุเกิด เมื่อ 11 กรกฎาคม ปี 2560 นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต พร้อมพวก บุกไปที่บ้านของ นายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แล้วใช้ปืนจ่อยิงหัวคนในบ้านเสียชีวิตรวม 8 ศพ โดยมีการวางแผน และสร้างสถานการณ์เหมือนกับว่า ผู้ใหญ่วรยุทธทะเลาะกับคนในบ้าน โดยมีปมจากความขัดแย้ง เรื่องที่ดินมูลค่าหลายล้านบาทที่นายซูริก์ฟัต และผู้ใหญ่วรยุทธ มีต่อกัน พร้อมทั้งมีข่มขู่จะเอาชีวิตกันด้วย

เมื่อ 28 มีนาคม ปี2561 ศาลจังหวัดกระบี่ (ศาลชั้นต้น) พิพากษาประหารชีวิต นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต พร้อมพวกรวม 6 คน โดยส่วนหนึ่งของคำพิพากษาของศาล ระบุว่า จำเลย 6 คน บางคนแม้จะรับสารภาพแต่ยังมีบางประเด็นที่ให้การไม่หมด คือ รับสารภาพไม่ถึงที่สุด ไม่มีเหตุควรปราณี จึงลงโทษประหารชีวิต โดยเหลือการต่อสู้อีก 2 ศาล คือ ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา

ยิง M79 ถล่มกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. หน้าห้างบิ๊กซึ ราชดำริ วันที่ 23 ก.พ. 2557

ประหาร 4 มือยิงเอ็ม 79 ถล่ม กปปส.ที่บิ๊กซี ราชดำริ ตาย 3 คน รวม เด็กสองพี่น้องที่ตายคารถตุ๊กตุ๊ก

นอกจากโทษประหารในคดีฆ่า-ข่มขืน-ชิงทรัพย์แล้ว ในคดีทางการเมืองก็มีการพิพากษาประหารชีวิตด้วยเช่นกัน ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 ขณะที่มีการชุมนุมของ กปปส. มีการยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ซึ่งมี ด.ญ.พัชราภรณ์ ยศอุบล หรือน้องเค้ก และด.ช.กรวิชช์ น้องชายอายุ 5 ขวบ ที่เสียชีวิตขณะนั่งในรถสามล้อรวมอยู่ด้วย มีผู้บาดเจ็บอีก 21 ราย และทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก

คดีนี้ตำรวจจับกุมมือยิง M79 ได้รวม 4 คน ดำเนินคดี ฟ้องในข้อหา 1.ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่า โดยไต่ตรองไว้ก่อน, 2. ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, 3. มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครอง, 4.มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง, 5. มีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง, 6. พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, 7. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง และ 8. ฝ่าฝืนประกาศ ที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดออกนอกเคหสถานเข้าไปในเขตพื้นที่ที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเลยทั้ง 4 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นศาล

กระทั่งวันที่ 4 ก.ย.58 ศาลอาญากรุงเทพใต้ตัดสินประหารชีวิต นายทวีชัย วิชาคำ อายุ 39 ปี, นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี, นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี และนายชัชวาล ปราบบำรุง อายุ 45 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่ได้ออกให้พกพาอาวุธในที่ทางสาธารณะ และข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหา แต่การสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษ 1 ใน 3 ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนลงโทษคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต และพกพาอาวุธคงเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน เมื่อรวมโทษแล้วศาลให้ลงโทษเพียงสถานเดียวคือจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น

อาคารที่ใช้ยิงเป้า “สถานที่หมดทุกข์” (ภาพจาก FB : ยุทธ บางขวาง‎)

ทั้งนี้ ตามตัวบทกฎหมายไทยเมื่อต้องคำพิพากษา “ประหารชีวิต” มีข้อปฏิบัติ 3 ขั้นตอน คือ

1. เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิต ศาลจะออกหมายเด็ดขาดให้ประหารชีวิตจากนั้นส่งไปยังเรือนจำ

2. เมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวจำเลยหรือผู้ต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิต ไปทำการประหารชีวิต เว้นเสียแต่ว่า ผู้ต้องคำพิพากษาหรือจำเลย ได้ยื่นฎีกาขอให้พระราชทานอภัยโทษภายใน 60 วัน นับแต่วันมีคำพิพากษา

3. เมื่อผู้ต้องคำพิพากษาประหารชีวิต ยื่นฎีกาขอให้พระราชทานอภัยโทษ ทางราชทัณฑ์ต้องรอฟังพระราชวินิจฉัย หากมีพระราชวินิจฉัยลงมาให้ “ยกฎีกา” ทางราชทัณฑ์ต้องทำการประหารชีวิตได้ทันที หากมีพระราชวินิจฉัยให้อภัยโทษ ก็ขึ้นอยู่กับว่าอภัยโทษอย่างไร เช่น ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต บังคับโทษไปตามโทษจำคุกตลอดชีวิต และหากภายหลังถึงคราวจำเลยคนนั้น สมควรได้ลดโทษตามวิธีของราชทัณฑ์ ก็จะแปลงโทษจำคุกตลอดชีวิต เป็นโทษจำคุก 50 ปี เพื่อนำมาเป็นตัวตั้งในการคำนวณลดโทษต่อไป

ขอบคุณภาพปก ที่สุด ดอทคอม