เปิดใจ ‘พญาปี่’ ปราชญ์ผู้ประดิษฐ์ปี่ถวาย ในพระราชพิธีออกพระเมรุ ในหลวง ร.9

ประเด็นคือ – สัมภาษณ์ จ่าเอกสุวรรณ ศาสนนันทร์ หรือ พญาปี่ ปราชญ์ชุมชนแห่งปากเกร็ด ผู้ประดิษฐ์ปี่ถวาย ในพระราชพิธีออกพระเมรุพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช  

วันที่ 18 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ จ่าเอกสุวรรณ ศาสนนันทร์ หรือ พญาปี่ ปราชญ์ชุมชนแห่งปากเกร็ด อดีตข้าราชการทหารเรือ สังกัดกองดุริยางค์ทหารเรือ ที่บ้านเลขที่ 73/12 หมู่ 1 ถนนสุขาประชาสรรค์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังทราบว่าจ่าเอกสุวรรณ เป็นผู้ประดิษฐ์ปี่ขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เฉพาะงานออกพระเมรุพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ และทดแทนบุญคุณแผ่นดิน

โดยปี่ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่นั้นทำจากไม้มงคล 9 ชนิด จำนวนทั้งหมด 30 เลา ซึ่งจะมอบให้หน่วยงานทั้งหมดคือ ครั้งที่ 1 จำนวน 10 เลา เป็นปี่ไฉน จำนวน 8 เลาเพื่อใช้ในวงปี่ไฉนกลองชนะ ประโคมย่ำยาม และปี่ชวา จำนวน 2 เลา เพื่อใช้ในวงบัวลอย และวงปี่พาทย์นางหงส์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 60

ครั้งที่ 2 จำนวน 8 เลา เป็นปี่ชวา จำนวน 4 เลา ปี่ใน จำนวน 2 เลา และปี่มอญจำนวน  2 เลา โดยมอบให้แก่สำนักสังคีต กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 60  เเละครั้งที่ 3 จำนวน 12 เลา เป็นปี่ชวา 4 เลา , ปี่มอญ 4 เลา , ปี่ใน 4 เลา โดยจะมอบให้วงดุริยางค์ไทย 4 เหล่าทัพ ในวันที่ 20 ต.ค.60 นี้ ทั้งหมดจะใช้ร่วมบรรเลงในงานออกพระเมรุพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช

จ่าเอกสุวรรณ เคยถวายปี่ในไม้มะริดประกอบงาช้าง เมื่อปี 36 เเละได้ซ่อมแซมกล่องงาช้าง ของใช้ส่วนพระองค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวรวิหาร

รวมถึงทำด้ามตาลปัตร จำนวน 300 ด้าม ถวายในงานออกพระเมรุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปริณายก และทำพระโกศงาช้าง เพื่อบรรจุอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปริณายก

สำหรับการประดิษฐ์ปี่เพื่อใช้ในพระราชพิธีครั้งนี้ ทำจากไม้มงคล 9 ชนิด คือ 1. ไม้ประดู่ ความหมายคือ ความพร้อม ร่วมสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 2. ไม้กันเกรา ความหมายคือ จะช่วยป้องกันภัย อันตรายต่างๆ ไม่ให้มากล้ำกราย ขัดเกลาให้คนเป็นคนดี , 3. ไม้ทรงบาดาล ความหมายคือ พลังอันยิ่งใหญ่ ให้มีความสงบร่มเย็น 4. ไม้ชิงชัน ความหมายคือ การชิงชัยหรือชัยชนะ

5. ไม้พะยูง ความหมายคือพยุงบ้าน พยุงเรือน พยุงฐานะ 6. ไม้มะริด ความหมายพ้องเสียงคำว่าฤทธิ์ คือ เชื่อว่ามีอิทธิฤทธิ์ 7. ไม้พญางิ้วดำ ความหมายคือ มีพุทธคุณให้โชคให้ลาภ ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ 8. ไม้พุด ความหมายพ้องเสียงคำว่าพุทธ คือ พุทธศาสนา ผู้ตรัสรู้ และ 9. ไม้ขนุน ความหมายคือ หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น มีผู้ให้การเกื้อหนุน ไม้มงคลทั้งหมดเป็นไม้เก่าที่ผู้ประดิษฐ์เก็บสะสมมาเป็นเวลานาน

สำหรับการประดิษฐ์ปี่เพื่อมอบให้กับ 4 เหล่าทัพครั้งนี้ จำนวน 12 เลา เพื่อจะนำไปมอบให้ในวันที่ 20 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์ขั้นตอนในการประดิษฐ์ด้วย โดยจ่าเอกสุวรรณใช้ความประณีต และตั้งใจอย่างมากทุกขั้นตอน เพื่อให้ปี่ทุกเลาออกมาสวยงามสมพระเกียรติ

ซึ่งสำเร็จไปแล้ว 6 เลา ส่วนอีก 6 เลาจะแล้วเสร็จทันวันส่งมอบพร้อมบรรจุในกล่องบุกำมะยี่งดงาม ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ทำความดีและมีส่วนร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระเมตตา โดยจ่าเอกสุวรรณกล่าวว่า ตนภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเเผ่นดินในรัชกาลที่ 9

จ่าเอกสุวรรณเปิดเผยว่า ตั้งแต่งานสมเด็จพระสังฆราชฯ ตนได้มีโอกาสทำพระโกศงาช้าง และตาลปัตร ถวาย รวมทั้งซ่อมกล่องงาช้างของ ร.4 ต่อมามีลูกศิษย์มาขอให้ทำปี่ไฉนให้ 2 เลา เพื่อเป่าประโคมย่ำยาม ตนก็ยินดี แต่ในงานนี้มีคนเป่าทั้งหมด 8 คน ตนจึงทำปี่ไฉนให้ไป 8 เลา ปี่ชวา 2 เลา จากไม้ที่มีคุณค่าที่ตนเก็บสะสมไว้ เป็นไม้มงคล 9 ชนิด ที่มีความหมายตรงกับรัชกาลที่ 9 จากนั้นได้ปรึกษาผู้ใหญ่จนได้ทำถวายสมเด็จพระเทพฯ

เมื่อได้ยินเสียงปี่ที่ตนประดิษฐ์ถวาย ตนรู้สึกปลาบปลื้มและภูมิใจ ที่ได้ทดแทนพระคุณแผ่นดินถวายในหลวง ต่อมาตนได้ทำตำราการประดิษฐ์ปี่ถวายด้วย ซึ่งมีแค่ 2 เล่มเท่านั้น