วิษณุ เผย 4 อุปสรรคเลือกตั้ง ชี้หากไม่แก้อาจไปต่อไม่ได้

ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล ได้ข้อสรุปปัญหา เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรี ใช้วิธีแก้ด้วยกฎหมาย ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องใช้ ม.44 เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป

เวลา 19.00 น.ของวันที่ 14 มิ.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์หลังหารือกับผู้ปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการกฤษฎีกา นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยประเด็นปัญหาจากการหารือที่จะรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มี 3-4 ข้อ เพื่อพิจารณาแก้ปัญหาในทางกฎหมาย คือ การประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง, หัวหน้าสาขาพรรค, การทำไพรมารีโหวต (การเลือกตั้งขั้นต้นของแต่ละพรรค เพื่อสรรหาผู้สมัครที่จะเป็นตัวแทนพรรคลงชิงชัยในการเลือกตั้ง) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ต้องรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองที่ต้องดูว่า คสช.จะพิจารณาอย่างไร

https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/1818251134879877/

โดยมีเรื่องที่ต้องเสนอ คสช. คือ การให้กกต.ดำเนินการก่อน ที่กฎหมายลูกจะมีผลบังคับใช้ 90 วัน หากเรื่องใดที่กกต.สามารถใช้อำนาจได้ก็ให้ทำไป เรื่องใดที่คสช.ช่วยได้โดยไม่ต้องไปแก้อะไร เช่น การจะจัดประชุมใหญ่ก็ให้ขออนุญาตมา แต่จะมี 4 ประเด็นที่จะต้องออกกฎหมาย ก็ต้องไปดูว่า จะออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.), พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือ หัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อคลายปัญหาที่ติดขัด แต่ไม่ใช่การปลดล็อกทั้งหมด

“ดังนั้นอย่าเพิ่งไปคิดว่า ทั้งหมดจะต้องใช้มาตรา 44 หากปลดล็อคทั้งหมดก็อาจจะสะดุดในบางอย่างได้ ยกตัวอย่าง หากจะใช้พระราชกำหนดเพื่อแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นการเฉพาะเจาะจงเพียงเรื่องเดียวก็ไม่สามารถทำได้ แต่หากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ก็สามารถที่จะออกเป็นพระราชกำหนดโดยพ่วงเรื่องของการแบ่งเขตเข้าไปได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเสนอคสช.ไปแล้วหรือรัฐบาลมีความเห็นไปในทางใด และเห็นว่า ควรมาคุยกันอีกครั้งแต่ไม่ใช่การประชุมคณะทำงาน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการพูดคุยกันแล้ว ยังยืนยันว่า จัดการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่หรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กล้าพูดอย่างนั้น แต่คาดว่า จะสามารถบริหารจัดการได้ แต่ถ้ามีตัวแปลบางอย่างที่เห็นว่าสมเหตุสมผลก็อาจจะมีการบวกลบกันบ้าง

เมื่อถามถึงปัญหาไพรมารีโหวตจะยังคงไว้อยู่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องรายงานให้คสช.ทราบใน 2 ประเด็นว่า ถ้ายังยืนยันจะมีแล้วจะเกิดปัญหาอะไร จะแก้ไขอย่างไร หากยังคงทุกอย่างไว้เหมือนเดิมคงจะไพรมารีโหวตไม่ได้ หรือถ้าไม่มีแล้ว จะต้องทำอย่างไร จึงต้องมี 2 ทางเลือกเอาไว้ชี้แจง ส่วนที่อยากให้เลิกไพรมารีโหวต เพราะเห็นว่า ปัจจัย 3 ข้อ คือ ถ้าไม่มีการแบ่งเขต ไม่ยอมให้ประชุมใหญ่ ไม่ยอมให้หาสมาชิกได้ ก็ทำไพรมารีโหวตไม่ได้ หากปัจจัย 3 ข้อนี้ยังไม่ขยับไพรมารีโหวตคงจัดไม่ได้ พรรคจึงอยากให้ยกเลิก ซึ่งใน 3 ข้อนี้บางเรื่องคสช.ปลดเปลื้องให้ได้ บางเรื่องพรรคการเมืองต้องไปบริหารจัดการเอง

ส่วนประเด็นที่พรรคการเมืองจะต้องหาสมาชิกที่ยังติดขัดในข้อกฎหมายจากคลายล็อกให้ไม่ใช่ปลดล็อกนั้น ถ้า คสช.คลายล็อกแล้วยังหาสมาชิกไม่ได้ 500 คนในเดือนกันยายนนี้ แต่ละพรรคก็ต้องไปบริหารจัดการกันให้ได้

สำหรับการบริหารจัดการเวลาโรดแมปการเลือกตั้ง ซึ่งมีส่วนที่ผูกกับการประกาศใช้ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ( ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ศ. … ), เลือกตั้งท้องถิ่น และ กกต.ชุดใหม่นั้น จะมีการพูดคุยคณะทำงานอย่างใกล้ชิด หากต้องมีการขยับเวลา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประวิตร เผยปลายเดือนนี้คุยพรรคการเมือง จะชัดเจนเรื่องปลดล็อก!