SHARE

คัดลอกแล้ว

นายจ้าง-เพื่อนร่วมงาน ยืนยัน ‘หนุ่มใจโหด’ ที่ปรากฏในคลิปโยนแมวให้รถเหยียบจนตาย เป็นคนรักสัตว์ เผยวันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งใจทำ และรู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ล่าสุดได้หนีออกจากงานไปแล้ว

จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ผู้ชายเดินข้ามไปอุ้มแมวจากอีกฝั่งของถนน และเดินข้ามกลับมา ก่อนที่ปล่อยให้แมววิ่งข้ามถนนกลับไปจนถูกรถกระบะทับและตายในเวลาต่อมา ซึ่งภาพที่ถูกเผยแพร่สื่อให้เห็นถึงลักษณะของท่าทางที่เหมือนกับการตั้งใจโยนแมวให้ถูกรถทับ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 61 ชาวเน็ตต่างรุมประณามการกระทำของผู้ชายที่ปรากฏในคลิปเป็นจำนวนมาก

https://www.youtube.com/watch?v=E7ajNu-agXA&t=1s

วันนี้ (14 ก.ค. 61 ) ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตามตำแหน่งที่ปรากฏอยู่ในคลิปวีดีโอ คือ บริเวณอู่สมพร เป็นอู่ซ่อมรถยนต์ตั้งอยู่ภายในซอย ริมถนนเอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยได้พบกับ นายสมพร ซึ่งเป็นเจ้าของอู่และเป็นนายจ้างของนายประจักษ์ หรือจักษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) ชายอุ้มแมวที่ปรากฏอยู่ในคลิป ทั้งนี้นายสมพรยินดีให้ข้อมูลโดยขอไม่ให้สัมภาษณ์ผ่านหน้ากล้อง

นายสมพร เล่าให้ฟังว่า คนที่อยู่ในคลิปคือนายประจักษ์ เป็นลูกน้องที่ทำงานในอู่ได้ประมาณ 2 เดือน หลังเกิดเหตุการณ์ตนเองก็ได้สอบถามว่าทำไมถึงโยนแมวจนถูกรถทับ ซึ่งเขาได้ปฏิเสธและบอกว่าเป็นการเล่นกับแมว แต่จังหวะที่เกิดเหตุเป็นจังหวะที่แมวกระโดดออกจากมือ โดยมีนายชนะ ตะเพียนทอง หรือ โก้ ลูกน้องในอู่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และขณะที่ตนเองสอบถามนั้นนายประจักษ์ก็มีอาการเสียใจถึงขนาดน้ำตาซึม

นายสมพร เล่าอีกว่า นายประจักษ์มีนิสัยปกติทั่วไป เป็นคนตั้งใจทำงาน มีวินัย ช่วงเช้าของทุกวันจะทำหน้าที่เก็บกวาดอู่ให้เรียบร้อยก่อนลงมือทำงาน และถ้ามีเวลาก่อนเข้างานนายประจักษ์ก็ชอบที่จะอุ้มแมวมาเล่น เนื่องจากเป็นคนที่ชอบเล่นกับหมาและแมวอยู่แล้ว และที่อู่ก็เลี้ยงทั้งหมาและแมว

โดยหมาชื่อว่าเจ้าดุกดิก เป็นหมาพิการขาขาดเพราะถูกรถไฟทับตั้งแต่เล็ก ซึ่งนายประจักษ์ก็ชอบที่จะมาเล่นกับมัน ส่วนแมวตัวที่โดนรถทับนั้น นายประจักษ์ก็ชอบที่จะเข้าไปอุ้มมาเล่นเป็นประจำ และสิ่งที่ตนเองพูดนั้นก็ไม่ใช่เป็นการแก้ตัวให้กับลูกน้อง เพราะตอนนี้นายประจักษ์ก็หนีออกจากงานไปแล้ว เนื่องจากทนรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้คนที่รักสัตว์จะทราบดีว่า ถ้าคนที่เกลียดสัตว์จะไม่อยากเข้าใกล้สัตว์โดยไม่จำเป็น

นายจ้างของนายประจักษ์ ยังบอกอีกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นตนเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะคนทั่วไปมองในเชิงลบไปหมดแล้ว ตนเองก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกไม่ดีที่ลูกน้องต้องหนีออกจากงานไปด้วยความกลัว เพราะได้คุยกับเขาแล้วว่าให้อยู่เพื่อชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าเขามีเจตนาจะฆ่าทำไมต้องมาทำตรงนี้  และทั้งเจ้าของแมวและลูกน้องตนเองก็ไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน ซึ่งเจ้าของแมวตัวที่ถูกรถทับก็เป็นญาติกับพนักงานที่อู่ของตน

ทั้งนี้นายสมพร ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูสภาพภายในอู่บริเวณที่มีการเลี้ยงหมาและแมวตามที่ให้ข้อมูล ซึ่งมีภาชนะใส่อาหารแมว อาหารหมา โดยแมวและหมาที่เลี้ยงไว้ในอู่เป็นแมวและหมาจรจัดที่เข้ามาอาศัยอยู่เอง

ขณะเดียวผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายชนะ ตะเพียนทอง ลูกน้องของอู่สมพร ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันที่เกิดเรื่อง โดนนายชนะ ระบุว่า ตอนเช้าของวันที่เกิดเรื่องตนเองมาทำงานตามปกติ  เห็นนายประจักษ์กำลังอุ้มแมวอยู่และแมวกระโดดออกจากมือ โดยที่นายประจักษ์ก็ทำท่าทางเหมือนจะคว้าไว้ ซึ่งตนเองก็พยายามที่โบกให้รถที่วิ่งมาหยุดแต่ไม่ทัน หลังที่แมวถูกรถชนนายประจักษ์ก็วิ่งเข้าไปดูและเข้าไปอุ้ม ซึ่งตนเองก็เรียกเจ้าของแมวให้ออกมาดู เจ้าของแมวจึงได้อุ้มเข้าไปในบ้านและตายในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ หลังจากที่เกิดเหตุแล้วมีภาพเผยแพร่ออกไปนั้น นายชนะเล่าให้ฟังว่า นายประจักษ์ก็ได้มาปรับทุกข์ว่ารู้สึกผิดที่ทำให้แมวตาย และไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายสมพร  ภูมาลา หรือโก้ อายุ  35 ปี ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าของแมวและเป็นผู้ที่ฝังร่างของแมว ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่ฝังแมว พร้อมกับกล่าวว่า ขณะเกิดเรื่องตนเองไม่อยู่บ้าน มาทราบเรื่องก็เมื่อตอนเย็นที่กลับถึงบ้าน ซี่งเจ้าของแมวก็ทำงานอยู่ที่อู่และเลี้ยงแมวตัวนี้มานานมากแล้ว ตนเองมาเห็นเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ปกติแมวตัวนี้คนจะจับมันยาก ถ้าไม่สนิทกับมันจริงๆ มันไม่ยอมให้จับ ตนเองไม่ทราบว่าคนที่ทำไม่ค่อยเต็มหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าทำ เพราะแมวมันอยู่มันดีๆ

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า