สภาเกษตรกรพังงา หวั่นมีการลักลอบส่งเมล็ดพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้านออกนอกประเทศ หลังราคาพุ่งสูง หากไม่ควบคุม คาดว่าเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจะได้รับผลกระทบ
วันที่ 12 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ราคาเมล็ดทุเรียนพุ่งสูงถึง กก. ละ 80 บาท ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่า จะมีการกว้านซื้อเมล็ดทุเรียนเพื่อนำพันธุ์เมล็ดส่งออกต่างประเทศ เบื้องต้นได้สอบถาม นางสาโรจน์ ภูมิรักษ์ อายุ 52 ปี แม่ค้ารับซื้อเมล็ดทุเรียน กล่าวว่า เมล็ดทุเรียนที่ตนเองรับซื้อนั้นนำส่ง จ.ชุมพร เพื่อเพาะปลูก ซึ่งคนรับซื้อรู้จักกันดีและเป็นญาติกัน โดยนับว่าเป็นการรับซื้อเพื่อนำเพาะพันธุ์ในเครือญาติด้วยกัน เพื่อจำหน่ายต้นกล้าอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะเพาะพันธุ์ส่งออกนั้น เชื่อว่าในกลุ่มเครือญาติของตน ไม่มีการส่งพันธุ์ทุเรียนไปต่างประเทศอย่างแน่นอน

นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.พังงา
ด้าน นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.พังงา กล่าวว่า กรณีราคาเมล็ดทุเรียน กก. ละ 80 บาท นั้นพบว่า มีทั้งผู้ต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์พื้นเมือง เพื่อเพาะพันธุ์ภายในประเทศและต่างประเทศ ขณะผลผลิตออกสู่ตลาดมีการสั่งผลทุเรียนจากจังหวัดต่างๆ ในปริมาณมาก ทำให้เมล็ดทุเรียนมีราคาสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปกติเมล็ดทุเรียน จะมีราคา กก. ละ 30 บาท ปัจจุบันพบว่า กก. ละ 50-80 บาท โดยอาจจะเกิดจากความต้องการเมล็ดทุเรียนในส่วนของต่างประเทศด้วย
เนื่องจากในปีนี้ ทุเรียนมีราคาสูง ทำให้ความต้องการเมล็ดทุเรียนของเกษตรกรมีมากขึ้น ซึ่งต้นพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองมีความแข็งแรง โดยนำยอดทุเรียนพันธุ์ต่างๆ เสียบยอด ก็จะได้ต้นทุเรียนที่ทนทาน มั่นคง แข็งแรง และได้ผลดี โดยทราบว่า ได้มีออร์เดอร์จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา โดยไม่ได้ผ่านภาครัฐหรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการส่งออกและนำเข้าพืชพันธุ์ของประเทศไทย ถือเป็นการลักลอบ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน และสินค้าผลิตผลของทุเรียนได้ เนื่องจากทราบจากกระแสข่าวว่า มีการขยายพื้นที่ปลูกอย่างมโหฬารในต่างประเทศ และหากทุเรียนในต่างประเทศให้ผลผลิต จะส่งกระทบกับทุเรียนในประเทศไทยอย่างแน่นอน