“ทุกอย่างย่อมมีที่มา”…เรื่องเล่าหมูป่า จาก “ครูบาแสงหล้า”

เมื่อได้รับข่าวดีว่า ทั้ง 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่รอดพ้นออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ได้อย่างปลอดภัย จากความพยายามทุกวิถีทางของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนของนานาชาติเกือบ 20 วัน แน่นอนว่าภารกิจครั้งนี้ เป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมหวานขม ปะปนกันไปในทุกๆความรู้สึก และความสูญเสีย 1 ชีวิต ของ “จ่าแซม” น.ต.สมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง หลายเรื่องราว หลากมุมมองทิ้งไว้เป็นคำถามในใจและบทเรียนมากมาย ณ ที่แห่งนี้

ไม่ว่าจะเป็นความบังเอิญ หรือ โชคชะตา เมื่อทีมข่าวได้เดินทางไปวัดพระธาตุสายเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ฝั่งเมียนมา แบบนอกโปรแกรมของไกด์นำเที่ยว ในช่วงเย็นของวันที่ 10 ก.ค.61 ตามคำบอกเล่าของไกด์ว่าที่นี่ มีพระอุโบสถไม้ที่สวยงาม พลบค่ำวันเดียวกันนั้นนอกจากทีมข่าวจะได้นมัสการพระประธาน และชมอารยธรรมอันเก่าแก่นี้แล้ว เรายังได้มีโอกาสเข้ากราบสักการะกับพระเถระรูปหนึ่งอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ภิกษุสูงวัย ผู้เคร่งขรึมด้วยภูมิธรรม แฝงด้วยความเมตตา นั่นคือ “ครูบาแสงหล้า” หรือ พระรัตนรังษี หรือ พระมหาคุรุครูบาแสงหล้า ธัมมสิริ ในวัย 90 ปี หนึ่งในพระเกจิล้านนาผู้เปี่ยมด้วยบารมี เป็นที่เคารพนับถือและมีลูกศิษย์มากมายทั้ง 3 ประเทศ คือ เมียนมา ไทย และลาว แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น นามของ “ครูบาแสงหล้า” ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่เดินทางเข้าแผ่เมตตาอธิษฐานจิต ช่วย 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่วนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ครูบาแสงหล้า เมตตาเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ท่านได้เดินทางไปแผ่เมตตาที่หน้าถ้ำหลวงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ ครบ 3 วันที่เด็กๆทั้ง 13 คนหายเข้าไปในถ้ำ และครั้งที่สอง คือช่วงเย็นของวันที่ 7 ก.ค.61 และนับจากท่านเดินทางกลับประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ทราบข่าวดีว่าสามารถช่วยเด็กออกมาได้แล้ว

ภาพจาก FB. นายเจษฎา สิริโยทัย

ย้อนเวลาครูบาแสงหล้า ข้ามแดนมาทำพิธี 4 ครั้งช่วยทีมหมูป่า

• 26 มิ.ย.61  ครูบาแสงหล้า เดินทางมาถ้ำหลวง ทำพิธีเปิดป่า สวดมนต์บารมีแผ่เมตตา ขอขมาเจ้าที่ เรียกขวัญกำลังใจ ให้ญาติพี่น้องทั้ง 13 ชีวิต
• 7 ก.ค.61 พระครูบาแสงหล้า พระเกจิชื่อดังจากประเทศเมียนมา พร้อมคณะเดินทางมาทำพิธี ในถ้ำหลวง และได้นำรูปปั้นกวางทอง และเครื่องสักการะ เข้าไปทำพิธีภายในถ้ำ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนที่จะเดินทางกลับ (วันนำเด็กออกชุดแรก 4 คน )
• 16 ก.ค.61 ครูบาแสงหล้า เดินทางมาที่หน้าศาลเจ้าแม่นางนอน หน้าถ้ำหลวง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมพระเกจิอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ 9 รูป ทำพิธีบวงสรวงหน้าถ้ำหลวงครั้งใหญ่ หลังทีมหมูป่าฯ ออกจากถ้ำ และอุทิศส่วนกุศลให้ จ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง
• 19 ก.ค.61ครูบาแสงหล้า เดินทางมาที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำพิธีสืบชะตาให้ทีมหมูป่าฯ

ครูบาแสงหล้า ท่านยังเล่าต่อว่า (10 ก.ค.61) สติ และสมาธิเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ จะเห็นว่าการรอดชีวิตของเด็กทั้ง 13 คน ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่เป็นผลจากความมีสติ ส่วนสำคัญมากจากการฝึกฝน โดยเฉพาะการนั่งสมาธิ ทุกอย่างมีที่มา มีเหตุและผล มีเวรมีกรรม และมีเมตตาอยู่ในนั้น

ภาพจาก FB. นายเจษฎา สิริโยทัย

ครูบาแสงหล้า “ปลงผม บวชเณร” ให้โค้ชเอก

ตลอดการสนทนาของทีมข่าวกับครูบาแสงหล้า รับรู้ได้ถึงความเมตตาเหลือประมาณ ท่านยังเผยอีกว่า ความจริงแล้ว “โค้ชเอก” เอกพล จันทะวงษ์ อายุ 25 ปี ที่ติดอยู่ในถ้ำกับเด็กๆอีก 12 คน ไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ก็ว่าได้ เพราะในวัยเยาว์สมัยบวชเณร ครูบาแสงหล้าเองที่ปลงผมให้ที่วัดพระธาตุสายเมืองแห่งนี้ ด้วยเหตุผลเรื่องสัญชาติที่ไม่สามารถบวชในวัดไทยได้ แต่หลังจากรับศีลเสร็จ โค้ชเอก ได้ฝึกฝนวิชานั่งสมาธิอย่างเคร่งครัดตามพระธรรมวินัยที่นี่เป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะเดินทางกลับไปอาศัยในวัดฝั่งไทย พร้อมย้ำว่าการปฏิบัติวิปัสสนาเป็นสิ่งสำคัญ และที่วัดพระธาตุสายเมืองแห่งนี้ ฝึกฝนวินัยเข้มทุกค่ำเช้า

“แม้แต่อาตมาเอง ทุกวันนี้ยังนั่งสมาธิทุกวัน วันละ 45 นาที ก็นั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ” ครูบาแสงหล้า กล่าว พร้อมกับชี้ไปที่อาสนะ ข้างๆ

ครูบาแสงหล้า เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุสายเมือง ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีลูกศิษย์ทั้งในประเทศและเมียนมามากมาย เป็นพระเถระสายล้านนาที่ปฏิบัติวิปัสสนาเคร่งครัด ทำให้มีภูมิธรรมสูง บารมีมาก มีครบทั้งปัญญาและอภิญญาอีกรูปหนึ่ง

ประวัติ ครูบาแสงหล้า

ครูบาแสงหล้า หรือ “พระครูบาแสงหล้า” เป็น เจ้าอาวาสวัดพระธาตุสายเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก (ชายแดนไทยแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมาร์ หรือมีชื่อตาม สมณศักดิ์ ว่าพระรัตนรังสี (แสงหล้า ธมฺมสิริ) พระมหาคุรุครูบาแสงหล้า อภิธชอัคค มหาสัทธัมมโชติก อัคคมหาบัณฑิต ปัจจุบันท่าน มี อายุ 90 พรรษา

ปัจจุบันได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่ “พระรัตนรังษี”

(ท่าน ได้ สมณศักดิ์จากรัฐบาลไทย เมื่อ 5 ธันวาคม 2554 เนื่องในพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ นอกจากนี้ยังมีสมณศักดิ์จากทางรัฐบาลพม่าด้วยหลายระดับ ตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมาจนถึง ปัจจุบัน)

รับสมณศักดิ์ครูบาแสงหล้า ภาพจาก www.watphrakaew-chiangrai.com

ประวัติการศึกษา 

ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตร์ ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาสังคม ทั้งนี้สภามร.ชร. ซึ่งมี นายคำรน โกมลศุภกิจ นายกสภาได้นำคณะกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงไปทำพิธีถวายครุยปริญญาดังกล่าวแล้วที่วัดพระธาตุสายเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก (พม่า) เมื่อ 18 ธันวาคม 2557

โดยมี ผศ.ดร.ทศพล อารีนิจ อธิการบดี และ ดร.วรรณะ รัตนพงษ์ คณบดีสำนักวิชาสังคมศาสตร์ อ.วิทยา วรรณศิริ ประธานโปรแกรมพัฒนาสังคม มร.ชร.ฐานะบุคคลที่ความสำคัญในการเสนอชื่อเพื่อให้ได้รับปริญญาดังกล่าว ร่วมพิธีสำคัญนี้ด้วย

ในพิธีถวายปริญญาดังกล่าว ผศ.ดร.ทศพล ได้ประกาศเกียรติคุณถึงผลงานอันเป็นวัตรปฏิบัติของพระรัตนรังษี หรือ พระครูบาแสงหล้า ธมฺมสิริ ว่า เป็นพระสงฆ์ มีวัตรปฏิบัติที่งดงาม ครองตนอยู่ในพระวินัย เป็นพระนักพัฒนาที่มีแนวทางในการจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทุกชาติพันธุ์ในพม่า

โดยเฉพาะชาติพันธุ์เชื้อสายไทยใหญ่ ได้อุทิศแรงกายแรงใจและกำลังทรัพย์ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ผู้ด้อยโอกาสทุกระดับรวมทั้งทำนุบำรุงด้านพระศาสนา เป็นที่ประจักษ์แก่ชนชาติต่างในพม่า อีกทั้งยังได้สร้างโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง เพื่อการดูแลสุขภาพประชาชนในเขตเมืองท่าขี้เหล็กและใกล้เคียง

นอกนี้ยังได้สร้างที่พักคนชรา ผู้พิการ เป็นที่พักอาศัยและดูแลผู้ยากไร้โดยไม่แบ่งเชื้อชาติ ทางด้านการศึกษา ยังได้ส่งเสริมการศึกษาให้แก่ประชาชนและพระสงฆ์ โดยการสร้างโรงเรียนอีกหลายสิบแห่งเพื่อเป็นการสร้างคนให้มีโอกาสพัฒนาคุณภาพตนเอง

สภามร.ชร. จึงอนุมัติปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาการพัฒนาสังคม ให้เป็นเกียรติประวัติสืบไป” อธิการบดีมร.ชร. กล่าว

ภาพจาก FB. วัดพระธาตุสายเมือง ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน

สำหรับพระครูบาแสงหล้านี้ ต่างเป็นที่เคารพศรัทธาในบุญญาบารมี หรือแม้แต่เรื่องความเชื่อในพุทธคุณต่างๆ เป็นที่เลื่องลือของศาสนิกชนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมานานแล้ว

ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ จาก พม่า ไทย ลาวและจีน ซึ่งจะเห็นได้จากศรัทธาในการทำบุญแต่ละครั้ง และยังเป็นพระสงฆ์ที่ผู้เลื่อมใสศรัทธามากที่สุดในเขตลุ่มแม่น้ำโขง

และท่านยังมีพระลูกศิษย์ที่มีชื่อที่หลายคนรู้จัก คือ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เกจิอาจารย์ชื่อดังในย่านนี้ ซึ่งในวันทำพิธีฯ ก็มาร่วมพิธี อีกทั้งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จากเชียงตุงหลายสิบรูป และฝั่งไทยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามช่วงถึงเรื่องราวของ “เจ้าแม่นางนอน” พระเถระสายล้านนา ที่ปฏิบัติวิปัสสนาเคร่งครัด ผู้มีครบทั้งปัญญาและอภิญญาอีกรูปนี้ กลับตอบเพียงสั้นๆว่า “เป็นผู้มีบารมีมาก” เป็นปริศนาธรรมให้มองเห็นถึงการเคารพในสิ่งที่มองไม่เห็นนี้ได้ในคราวเดียวกัน

ขอบคุณข้อมูลประกอบ (ประวัติ) http://letterplanet.com

อ่านข่าวอื่นได้ที่ >>>

เว็บไซต์ : workpointnews.com

เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว  

ยูทูบ: workpoint news  

ทวิตเตอร์: workpoint news  

อินสตาแกรม: workpointnews