เร่งสางปัญหา ! รถอ้อยต่อคิวกินถนนหนึ่งช่องทาง ยาวกว่า 10 กม.

ประเด็นคือ – เร่งแก้ไขปัญหารถอ้อยติดคิวจอดขวางช่องทางจราจร ริมถนนทางหลวงชนบทนครราชสีมา หมายเลข 3115 สายบ้านปอแดง – ครบุรี ยาวนับสิบกิโลเมตร หลังชาวบ้านร้องเดือดร้อนหนัก

วันที่ 28 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงงานน้ำตาลครบุรี ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายณัฐพงษ์ ศรีภูมิพฤกษ์ ปลัดอำเภอครบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ขวัญเมือง โกสุมา ผู้กำกับการ สภ.ครบุรี ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่อำเภอครบุรี เดินทางเข้าไปรับฟังการชี้แจงการแก้ไขปัญหารถบรรทุกอ้อยที่ขนส่งผลผลิต เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับทางโรงงานน้ำตาล บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด ต้องติดคิวจำนวนมาก

และต้องจอดรถคอยอยู่ริมถนนทางหลวงชนบทนครราชสีมา หมายเลข 3115 สายบ้านปอแดง – ครบุรี พื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กินช่องทางการจราจรไปเกือบ 1 ช่องทางจากทั้งหมด 2 ช่องทางยาวนับสิบกิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีนายดำรง ภูติภัทร์ ผู้อำนวยการโรงงาน  บริษัทน้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) และตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อยลำมูลบน เข้าชี้แจงและร่วมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา

เบื้องต้น นายดำรง ภูติภัทร์ ผู้อำนวยการโรงงาน บริษัทน้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดกรณีมีรถอ้อยติดคิวยาวดังกล่าวนั้น เนื่องจากผลการสำรวจพบว่าในปีนี้มีผลผลิตอ้อยเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกๆ เกือบเท่าตัว เกษตรกรหันมาปลูกอ้อยเพิ่มมากขึ้น เพราะราคาผลผลิตทางการเกษตรตัวอื่นนั้นลดต่ำลงอย่างมาก ประกอบกับในปีนี้ฝนดีทำให้อ้อยของเกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยในแต่ละปีจะมีผลผลิตอ้อยเข้าสู่โรงงานประมาณปีละ 2.4 ล้านตัน แต่ในปีนี้คาดการณ์ว่าน่าจะมีผลผลิตเข้าสู่โรงงานไม่น้อยกว่า 3.2 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อผลผลิตมีจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการจำกัดน้ำหนักการบรรทุกผลผลิตอย่างเข้มงวด รถที่ใช้ขนส่งก็ต้องมากตามขึ้นด้วย

ขณะเดียวกันในช่วงเปิดฤดูกาลผลิตน้ำตาลและรับซื้ออ้อยจากเกษตรกรซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 4 เดือน เกษตรกรต่างพากันเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งโรงงาน เพราะเกรงว่าสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะฝนที่อาจจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ จึงต้องเร่งเก็บเกี่ยว เพราะหากเกิดฝนตกลงมาแล้วจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้  จึงทำให้รถบรรทุกอ้อยติดคิวยาวเป็นปัญหาดังกล่าว

สำหรับผลสรุปของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในห้วงนี้จำเป็นต้องเร่งระบายรถบรรทุกอ้อยที่จอดอยู่ริมถนนออกเป็นการเร่งด่วน ซึ่งทางโรงงานเองได้จัดหาลานจอดรถเพิ่มเติมใหม่อีก 5 ลาน รวมเนื้อที่เกือบ 300 ไร่ สามารถรองรับปริมาณรถเพิ่มได้อีกกว่า 1,200 คัน และให้ทางหน่วยส่งเสริมการเพาะปลูกอ้อยของทางโรงงานและตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อยลำมูลบน ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้ช่วยชะลอการเก็บเกี่ยวออกไปก่อนในช่วงนี้ เพื่อให้ทางโรงงานสามารถจัดระเบียบระบายรถออกจากถนนไม่ให้กีดขวางการจราจร ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี  และสถานการณ์เริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว