เร่งหาข้อเท็จจริง ! ภาพชายหัวโล้นนอนเซลฟี่กับสีกา ทำเจ้าอาวาสวัดดังหายตัว 5 เดือน

ประเด็นคือ – เจ้าอาวาสวัดดัง จ.เพชรบูรณ์ หายเงียบ 5เดือน หลังมีภาพชายหัวโล้นนอนเซลฟี่คู่สีกาว่อนเน็ต แต่ไม่มีใครทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ

จากกรณีที่โลกโซเชียล ได้มีการแชร์ภาพชายหัวโล้นคล้ายพระชื่อดังระดับพระสังฆาธิการในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมหลับนอนเซลฟี่กับสีกาที่ภายในกุฏิวัด หลังเกิดเหตุปรากฏว่า เจ้าอาวาสวัดเวียงโพธิ์งาม หมู่ 6 บ้านเนินสว่าง ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีรูปร่างลักษณะหน้าตาคล้ายชายหัวโล้นในภาพดังกล่าว ได้หายตัวไป พร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า และข้าวของเครื่องใช้

โดยเฉพาะมีการงัดกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่กับกุฏิเจ้าอาวาสหายไปด้วย เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  หลังเกิดเหตุนายอรุณ อ้นเวียง ในฐานะผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านเนินสว่าง ได้นำหลักฐานภาพชายหัวโล้นคล้ายพระสงฆ์วัดดังของบึงสามพัน กำลังหลับนอนกับผู้หญิง เข้าแจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.บึงสามพัน และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงสามพัน เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรม และความไม่เหมาะสม ของเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว รวมทั้งทรัพย์สินของวัดที่หายไป

ขณะนี้นับเป็นเวลาเกือบ 5 เดือนแล้ว เรื่องดังกล่าวก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ เนื่องจากเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว ยังไม่กลับมาเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องจริงหรือเท็จประการใด และที่สำคัญวัดเวียงโพธิ์งาม ซึ่งเป็นวัดเพียงแห่งเดียวของหมู่บ้าน ได้กลายเป็นวัดร้าง ไม่มีทั้งพระภิกษุ และสามเณรจำวัดอยู่แม้แต่รูปเดียว สร้างความเดือดร้อนให้พุทธศาสนิกชนที่ต้องการมาทำบุญ และประกอบกิจทางศาสนา ต้องเดินทางไปที่วัดที่อยู่ในหมู่บ้านข้างเคียงแทน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ย.60 พระครูสิริ พัชโรภาส เจ้าคณะอำเภอบึงสามพัน พระครูพัชรธรรม รักขิต เจ้าคณะตำบลบึงสามพัน ร่วมกับ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านจำนวนเกือบ 100 คน ได้จัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการสรรหา และกฏระเบียบขั้นตอนการจัดตั้งพระสงฆ์ที่จะมาดำรงค์ตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเวียงโพธิ์งาม เนื่องจากเจ้าอาวาสวัดหายไปเพียง 1 เดือน ก็ขาดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว

ซึ่งในการประชุมนอกจากจะมีการเปิดเผยถึงขั้นตอนการจัดตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่แล้ว ยังมีการหยิบยกถึงกรณีที่เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว มีรูปร่างลักษณะหน้าตาคล้ายชายหัวโล้น ที่กำลังนอนเซลฟี่กับสีกาที่ภายในกุฏิวัดว่า เท็จจริงประการใด และมีการตัดต่อภาพหรือไม่  และถ้าเป็นเรื่องจริงมีหลักฐานเพียงพอในการให้สึกหรือไม่ รวมทั้งการผิดวินัยสงฆ์จะถึงขั้นปาราชิกหรือไม่ และหน่วยงานใดมีหน้าที่รับผิดชอบ รวมทั้งจะมีการตรวจสอบให้ชาวบ้านหายข้อสงสัย