เลือกตั้ง 62 l แนวคิดพรรคการเมือง เกี่ยวกับกองทัพและทหาร

นโยบายว่าด้วยกองทัพและทหารเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหาเสียงกันในช่วงนี้ โดยหลายพรรคชูนโยบายลดงบกลาโหมและลดขนาดกองทัพ พร้อมประกาศเลิกการเกณฑ์ทหารและเพิ่มสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางพรรคเช่นกันที่เสนอว่าแนวทางที่เป็นอยู่ในปัจจุบันดีอยู่แล้ว เช่นควรให้มีการเกณฑ์ทหารต่อไป รวมถึงบางพรรคเสนอให้มีการเพิ่มขนาดของกองทัพด้วยซ้ำ

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ระบุว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมลง 10% ต่อปี หรือประมาณปีละ 20,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปอุดหนุน “ศูนย์สร้างเถ้าแก่ใหม่” ให้ทุนและความรู้เพื่อส่งเสริมประชาชนให้เป็นเจ้าของธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ยังประกาศยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจแทน

สำหรับพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นพรรคแรกที่เสนอปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าจะลดงบกระทรวงกลาโหมลง 50,000 ล้านบาท/ปี เพื่อนำไปไปจัดสวัสดิการถ้วนหน้า พร้อมกันนั้นยังเสนอลดขนาดกองทัพและลดจำนวนนายพล โดยหวังจะลดขนาดกองทัพจาก 330,000 นาย เหลือ 170,000 นาย และลดจำนวนนายพลจากปัจจุบัน 1,600 นาย เหลือ 400 นาย นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่ยังเสนอยกเลิกการเกณฑ์ทหารและยกเลิกการเรียน รด. เปลี่ยนมาเป็นระบบสมัครใจทั้งหมด อีกทั้งยังเสนอให้มีการเพิ่มสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย เช่น ให้กรมธรรม์ประกันชีวิต ค่าเล่าเรียนบุตร

พรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็เป็นอีกพรรคที่เสนอให้ปฏิรูปโครงสร้างกองทัพ เช่น ยุบกองบัญชาการทหารสูงสุด ยกเลิกอัตราผู้ชำนาญการ, ผู้เชี่ยวชาญ, ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งจะทำให้กำลังพลลดลง นอกจากนี้ยังเสนอให้ย้ายกรมกองทหารทั้งหมดออกจากกรุงเทพฯ ในส่วนของการเกณฑ์ทหารก็จะยกเลิกและเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ

พรรคสามัญชนและพรรคประชานิยม ก็เป็นอีก 2 พรรคการเมืองที่เสนอให้ลดงบกลาโหมลงเช่นกัน โดยพรรคประชานิยมเสนอนโยบาย “เปลี่ยนรถถัง เป็นรถไถ” นำงบซื้ออาวุธไปซื้ออุปกรณ์การเกษตรให้เกษตรกรแทน ส่วนพรรคสามัญชนก็เสนอให้ลดทั้งงบประมาณและขนาดของกองทัพ นอกจากนั้ยังเสนอให้ยุบ กอ.รมน. ด้วย

ในส่วนของพรรคที่เสนอต่างออกไปจากแนวทางข้างต้นก็มีเช่นกัน โดยพรรคไทยศรีวิไลย์เสนอให้เพิ่มขนาดกองทัพทั้ง 3 เหล่า รวม 100,000 นาย โดยหวังว่าจะทำให้ไทยติด 1 ใน 10 กองทัพที่มีขีดความสามารถสูงสุดของโลกให้ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พรรคยังเสนอให้เพิ่มสวัสดิการแก่กำลังพลและสนับสนุนการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยในราคาสมเหตุสมผลเพื่อให้พร้อมรบตลอดเวลาด้วย

สุดท้าย พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ได้เสนอว่าให้คงการเกณฑ์ทหารเอาไว้เช่นเดิม แต่ก็มีการเสนอปรับเพิ่มรายได้เพื่อจูงใจให้คนอยากเป็นทหารมากขึ้น