เล่าหลังอ่าน: ชู้ (Adultery) เหมือนการตกลงในหลุมดำ ที่ขุดขึ้นมาเอง

• ชู้ (Adultery)
• Paulo Coelho  : เขียน
• ประโลม บุญรัศมี : แปล
• สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์  มีนาคม พ.ศ. 2559

          “…พวกผู้ชายนอกใจก็เพราะมันอยู่ในระบบพันธุกรรมของเขา แต่ผู้หญิงทำไปเพราะเธอไม่มีศักดิ์ศรีเท่าที่ควร นอกจากจะมอบกายให้แล้ว สุดท้ายก็จะมอบใจส่วนหนึ่งให้ไปด้วย อาชญากรรมที่แท้จริง การลักขโมย เลวร้ายยิ่งกว่าการปล้นธนาคาร เพราะว่าหากวันใดวันหนึ่งมีคนรู้ (เป็นอย่างนี้ประจำ) ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อครอบครัวโดยที่ไม่อาจประสานได้ดังเดิม

          สำหรับผู้ชายมันเป็นเพียง ‘ความผิดพลาดโง่ๆ’ แต่สำหรับผู้หญิง มันเป็นการสังหารทางจิตวิญญาณของคนรอบข้างที่มอบความรักและสนับสนุนเธอ ทั้งในฐานะแม่ของลูกและภรรยา…”

ชื่อหนังสือนั้นเหมือนมุ่งหวังจะให้เราคาดเดาและเชื่อว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับรักใครที่ผิดทำนองคลองธรรม ซึ่งมันก็จริงส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หลังจากอ่านจบ ฉันก็ลืมไปแล้วว่าเคยคาดเดาเอาไว้ ว่านี่จะเป็นหนังสือที่เจาะลึกหรือเปิดโปงการคบชู้ พูดถึงความรักความใคร่เร่าร้อนและความสัมพันธ์ที่ผิดไปจากความถูกต้องดีงามของการครองคู่

‘อะไรทำให้คนเรามีชู้ ?’

ถ้าถามคำถามนี้กับคนร้อยคน คิดว่าเราจะได้คำตอบที่แตกต่างกันออกไปเป็นสิบเป็นร้อยอย่างไหม หรืออาจจะได้มาเพียงคำตอบเดียว ซึ่งฉันว่าไม่

ถ้าเรามองว่าชีวิตมันซับซ้อน ความรักยิ่งเป็นเรื่องที่ยากกว่านั้นอีกหลายเท่า แต่เราก็เชื่อกันว่า ‘ความรัก’ เป็นที่มาของทุกสิ่งและอาจเป็นคำตอบของทุกอย่าง

‘ชู้’ ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘ลินดา’ หญิงสาวอายุสามสิบเอ็ด เป็นนักข่าวที่มีชื่อเสียง ทำงานให้หนังสือพิมพ์ที่น่าเชื่อถือของสวิสเซอร์แลนด์ สามีของเธอเป็นผู้ชายที่ร่ำรวย เป็นผู้ถือหุ้นกองทุนที่เชื่อถือได้ ทั้งคู่มีลูกสองคน ชีวิตของเธอนั้นช่างสมบูรณ์แบบชนิดที่คงจะมีคนอีกนับร้อยนับล้านที่อิจฉาและปรารถนาจะเป็นเจ้าของชีวิตแบบนี้ แต่ลินดากลับไม่มีความสุข วันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าชีวิตในแต่ละวันของตัวเองนั้นช่างน่าเบื่อหน่าย กิจวัตรประจำวันซ้ำซากจำเจ ขาดสีสัน ไม่มีอะไรท้าทายหรือน่าสนใจ แม้กระทั่งชีวิตคู่ของเธอกับสามี ทั้งที่เขาก็รักและแสนดีกับเธอ เธอเป็นทุกข์และไม่มีความสุข เหมือนชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป ‘อะไร’ ที่เธอเองก็ไม่รู้ กระทั่งคิดว่าตัวเองอาจจะป่วย

จนกระทั่ง เมื่อลินดาได้พบและสัมภาษณ์ ‘เจคอบ’ นักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล ซึ่งเคยเป็นแฟนเก่าสมัยมัธยม ชีวิตของลินดาก็เปลี่ยนไป ทั้งคู่เหมือนถูกดึงดูดเข้าหากัน จะเรียกว่า ‘ถ่านไฟเก่า’ ความยั่วยวนอันผิดบาป หรือความตื่นเต้นเร้าใจที่แสนท้ายก็ตามแต่ ในที่สุดทั้งคู่ก็ลักลอบมีความสัมพันธ์กัน แม้ว่าเจคอบเองก็แต่งงานและมีครอบครัวอยู่แล้ว ภรรยาของเขาก็เป็นสาวสวย ทายาทมหาเศรษฐี และเป็นถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านปรัชญา

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งลักลอบยิ่งตื่นเต้นเร้าใจ ต่อให้รู้ว่าผิดทั้งคู่ก็ยังแอบนัดเจอกันอีกหลายครั้งหลายหน จนลินดารู้สึกได้ว่าตัวเองถลำลึกลงไป และเรื่องนี้มันกำลังจะทำลายชีวิตเธอรวมถึงครอบครัวที่เธอรัก

เนื้อหาหลักของเรื่องอาจจะมีเพียงเท่านี้ แต่ผู้เขียนพาเราติดตามความรู้สึกนึกคิดของตัวละครหลักอย่างลินดา ความคิดคำนึง การรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ที่ซับซ้อน และบางทีก็ขาดไร้เหตุผล ไปจนถึงการค้นพบทางออกของเธอ

ลินดาเปรียบการมีชู้ของเธอเหมือนกับการตกลงไปในหลุมดำที่เธอเป็นคนขุดขึ้นมา แล้วก็ต้องพยายามป่ายปีนขึ้นมาจากหลุมนั้น

โชคดีที่ในท้ายที่สุดแล้ว ลินดาจะพบทางออกและบอกกับตัวเองได้ว่า ‘รู้จักความรักดีขึ้น’ เพราะเชื่อว่า ใครก็ตามที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกับเธอ อาจไม่มีวันเจอทางออก หรือไม่ก็มีบทสรุปที่ไม่งามนัก อย่างเช่นตัวอย่างที่เราก็เห็นอยู่บ่อยๆ ทางข่าวสาร ความรักที่จบลงด้วยเลือดและน้ำตา ความตาย ความหึงหวง การไม่ซื่อสัตย์ หวาดระแวง และแม้แต่การนอกใจ

‘อะไรทำให้คนเรามีชู้ ?’

ถ้ามองว่า เป็นเพราะคนเราแสวงหาสิ่งที่ขาด อย่างเช่นลินดา เมื่อขาดความสุขในชีวิตคู่เธอจึงแต่งเติมมันด้วยความสัมพันธ์จากชู้รักหนุ่ม แล้ว…หากมองว่าลินดามีชีวิตที่พรั่งพร้อมสมบูรณ์ เธอไม่ได้ขาดอะไร ทำไมจึงยังยอมก้าวล้ำไปสู่เส้นทางผิดศีลธรรมด้วยการมีชู้ ทั้งที่ก็รู้ว่าผิด หรือเพราะความผิดนั่นเองที่มันยั่วยวนจนไม่อาจหักห้ามใจ

นั่นอาจจะแปลว่า ไม่ว่าจะมีหรือจะขาด หากคนเราไม่ ‘พอ’ มันก็ย่อมง่ายต่อการตกลงไปใน ‘หลุมดำ’

แต่…มนุษย์มักมีเหตุผลให้กับการกระทำที่ไร้เหตุผลของตนเสมอ

ถ้าเชื่อกันว่า ‘เราทุกคนล้วนมีปีศาจร้ายอยู่ในตัว’ แล้วปีศาจร้ายชนิดไหนกันที่เราพยายามควบคุมมันไว้ กดมันไว้ภายใต้จิตสำนึกและสติ ความรู้ผิดชอบชั่วดี แม้ว่าบางทีเราต้องยอมรับว่าไม่มั่นใจ ว่าจะเก็บมันไว้นานขนาดไหน หรือเมื่อไหร่ที่ ‘ปีศาจร้าย’ นั้นมันจะแสดงตัว

ความสมบูรณ์แบบ คืออะไร ? มันต่างขึ้นอยู่กับความพอใจของเราแค่ละคนหรือเปล่า หากว่าเราพอใจ บางทีสิ่งที่มีหรือเป็น กระทั่ง ‘ชีวิต’ แบบที่เราครอบครองและเป็นเจ้าของอยู่ ก็นับว่าใกล้เคียงสุดแล้วกับความสมบูรณ์แบบที่ใฝ่หา แต่หากว่าเราไม่พึงพอใจ ก็นำมาซึ่งการดิ้นรนเพื่อไขว่คว้าไม่จบสิ้น และไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้างระหว่างการดิ้นรนนั้น

เราต้องไม่ลืมว่า ‘ความสมบูรณ์แบบ’ นั้น มันไม่มีอยู่จริง

ทุกสิ่งในโลกล้วนถูกสร้างมาให้ขาดตกบกพร่อง เพื่อที่เราจะได้เป็นส่วนเติมเต็มของกัน

บางทีการ ‘รู้จักความรักดีขึ้น’ อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ ‘ความสมบูรณ์แบบ’ ที่สุดแล้วก็เป็นได้

Photo by FB: Paulo Coelho

ประวัติผู้เขียน

เปาโล คูเอลญู (Paulo Coelho) เกิดที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผลงานสร้างชื่อ คือ ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน (The Alchemist) ซึ่งได้รับการแปลถึง 80 ภาษาทั่วโลก เขาเป็นหนึ่งในห้านักเขียนที่มีผู้อ่านมากที่สุดในโลก ได้รับรางวัล “Chevalier de L Ordre National de la Legion” จากรัฐบาลฝรั่งเศส เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ.2000 และได้รับรางวัลสูงสุดจาก “Forum Economico Mundial”

ปัจจุบันนอกจากทำงานเป็นนักเขียน นักคอลัมนิสต์ นักหนังสือพิมพ์แล้ว เปาโลยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษขององค์การยูเนสโก เป็นผู้อำนวยการศูนย์สันติภาพซิมอน เปเรส และประธานสถาบันอักษรศาสตร์แห่งบราซิลอีกด้วย

• เดือนสิงห์
• เด็กหญิงรักการอ่าน ที่โตมาเป็นผู้หญิงรักการอ่าน และฝันว่าจะเป็นคุณยายผู้รักการอ่าน จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง
• คอลัมน์ ‘เล่าหลังอ่าน’ จะบอกเล่าสู่กันฟังเรื่องหนังสือที่ได้อ่าน เป็นการแลกเปลี่ยนความสุข ส่งต่อความประทับใจจากเรื่องราวระหว่างบรรทัดเหล่านั้น

อ่านเรื่องอื่นเพิ่มเติม:

• เล่าหลังอ่าน: “ในตาคู่นั้น” ช่วงสุดท้ายของชีวิต เรามักจะคิดถึงอดีต
• เล่าหลังอ่าน : “Never Let Me Go” หนังสือที่ซ่อนความเศร้าลึก และชะตากรรมของหนุ่มสาว
• เล่าหลังอ่าน: มองอย่าให้เห็น (Bird Box)
• เล่าหลังอ่าน: ป่วยเป็นไข้ใจ ใครช่วยรักที (Finding Audrey)
• เล่าหลังอ่าน: ปมหลอน รางมรณะ (The Girl on the Train)