ดีเบตเลือกตั้ง 62 I ฟัง 7 พรรคการเมือง “แก้ปัญหาความจนภาคอีสาน”

https://www.youtube.com/watch?v=wWCYXkjIob8

เวทีดีเบตเลือกตั้ง 62 (สัญจร) ประชันวิสัยทัศน์

ช่องเวิร์คพอยท์ จัดเวทีดีเบตเลือกตั้งสัญจรครั้งแรก ช่วงเย็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เปิดประชันวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ “แก้ปัญหาความจน ภาคอีสาน” โดยมีตัวแทน 7 พรรคการเมืองเข้าร่วม ประกอบด้วย นายอดิศร เพียงเกษ พรรคเพื่อไทย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล พรรคชาติพัฒนา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ พรรคภูมิใจไทย น.ส.พรรณิการ์ วานิช พรรคอนาคตใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์ นายจำลอง ครุฑขุนทด พรรคพลังประชารัฐ และ ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี พรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยคำถามมาจากประชาชนใน จ.นครราชสีมา และนี่คือไฮไลต์ในการตอบคำถามแก้ความจนของตัวแทน 7 พรรคการเมือง

ทำอย่างไรจะทำให้ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น?

พรรณิการ์ (พรรคอนาคตใหม่) : เราไม่เชื่อในการประกัน และการจำนำราคาสินค้าเกษตร เพราะนั่นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ปีงบประมาณที่ผ่านมารัฐบาลใช้เงินประกันราคาเฉพาะข้าว 8 หมื่นล้านบาท พรรคเชื่อว่าเงินจำนวนนี้สามารถนำไปต่อปีกต่อหางเกษตรกรได้อย่างมหาศาล เราเชื่อว่า เกษตรกรไม่มีวันรวยถ้าเป็นผู้ขายเฉพาะผลผลิตที่เป็นวัตถุดิบแต่ต้องเป็นผลผลิตที่แปรรูปซึ่งจะได้ราคามากกว่า เงินที่ใช้ประกันราคาในแต่ละปีสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสร้างโรงงาน เพิ่มเทคโนโลยีให้กับเกษตรกร สร้างโรงงานในชุมชนที่รวมกลุ่มกันเป็นเจ้าของเอง แต่ต้องแก้หนี้สินซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ พรรคมีนโยบายจะใช้เงิน 1 แสนล้านบาท ในเวลา 4 ปี ปรับและปลดหนี้เกษตรกร ปลดเลยในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาทสำหรับเกษตรกรที่ไม่สามารถใช้หนี้ได้แล้ว เช่น ทุพพลภาพ ผู้นำครอบครัวเสียชีวิต

ทพ.ศุภผล (พรรครวมพลังประชาชาติไทย) : เกษตรกรทั้งประเทศต้องขายผลผลิตได้กำไร 100 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้กลไกบริหารจัดการ รวมทั้งต้องมีปัจจัยการผลิตที่ดีเพียงพอ เช่น พัฒนาที่ดินในภาคอีสาน 3 ล้านไร่กลายเป็นโฉนด ถ้าเป็น ส.ป.ก. จะพลิกให้เป็นโฉนดแต่มีสลักหลัง หรือมีเงื่อนไข จะขุดแก้มลิงเชื่อมต่อคลองธรรมชาติและคลองขุด โดยทั้งอีสานจะใช้แก้มลิงพวงทั้งหมด 15,000 แก้มลิง ใช้เงินแต่ละแก้มลิง 3 ล้านบาท ทั้งภาคอีสานจะเต็มไปด้วยแหล่งน้ำ นอกจากนี้จะหาตลาดให้เกษตรกรมีรายได้จนครบวงจร

ศักดิ์สยาม (พรรคภูมิใจไทย) : พืชที่เกษตรกรปลูกไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาคือไม่มีกฎหมายรองรับในการแบ่งปันกำไรอย่างเป็นธรรม เช่น เรื่องข้าวเกษตรกรลงทุน 78 % แต่ผลตอบแทนได้ไม่ถึง เกษตรกรจะต้องได้กำไรแบ่งคืนมา 78 % อย่าง ข้าวหอมมะลิปีนี้ต้องได้ราคา 19,000 บาท ไม่ใช่ 17,000 บาท ต่อมาคือการส่งเสริมการใช้ผลผลิตการเกษตรเป็นพืชพลังงานให้มากขึ้น และต้องหาพืชเกษตรใหม่ พืชที่ใช้น้ำน้อย ดูแลง่าย ใช้พื้นที่ปลูกน้อย นั่นคือ “กัญชา” เชื่อว่า จะพลิกชีวิตเกษตรกรได้

อดิศร (พรรคเพื่อไทย) : ต้องคืนสิทธิเสรีภาพต่อรองในทุกระดับชั้นของเกษตรกร โดยพรรคเพื่อไทยจะใช้ประสบการณ์จากการเป็นรัฐบาลในสมัยพรรคไทยรักไทย ซึ่งเคยปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรด้วยการพักหนี้เกษตรกร โดยมีการระดมความคิดไว้แล้ว

จำลอง (พรรคพลังประชารัฐ) : 1. ต้องแก้ปัญหาเรื่องน้ำ โดยต้องพัฒนระบบชลประทานให้เต็มที่ ปลูกพืชน้ำน้อย 2. ที่ดิน เปลี่ยนแปลง ส.ป.ก. ให้กลายเป็นทองคำ สามารถโอนสิทธิ์ได้ 3. พักหนี้ 4. หาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

นพ.วรรณรัตน์ (พรรคชาติพัฒนา) : เราต้องจัดการปัจจัยการผลิตที่สำคัญ คือ เรื่องน้ำ รัฐต้องลงทุนอย่างมหาศาลในการพัฒนาแหล่งน้ำทั่วทั้งประเทศให้สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างพอเพียงเพื่อจะใช้ในการเกษตร การอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี ก็จะสามารถแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรได้ ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มมูลค่า

จุรินทร์ (พรรคประชาธิปัตย์) : 1. ที่ดิน โฉนดสีฟ้า ยกระดับโฉนดส.ป.ก.ค้ำประกันเงินกู้ได้ เพิ่มสิทธิทำกินในที่ดินของรัฐที่ผิดกฎหมายแต่เป็นป่าเสื่อมสภาพ 2. กองทุนน้ำชุมชน 3. หนี้นอกระบบมาไว้ในระบบ 4. ประกันรายได้สินค้าเกษตร โดยปรับจากนโยบายเดิมที่เคยเป็นรัฐบาล คือ 70 : 30

ทำไมคนอีสานต้องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค?

จำลอง (พรรคพลังประชารัฐ) : ต้องแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้นเศรษฐกิจของประเทศอยู่ที่ 0.9 % ปัจจุบัน 4.2 % เชื่อว่า ท่านนายกฯ ประยุทธ์ดูแลคนยากคนจน สามารถที่จะเอางบประมาณที่ได้มาลดความเหลื่อมล้ำที่มีคนรวย รวยมาก คนจน จนมาก เราผ่านวิกฤตมามากแล้วขอให้ประเทศเดินไปได้ “เราจะกลับไปอย่างเก่าหรืออย่างใหม่ ผมเลือกอย่างใหม่ เพราะหากปล่อยไปตามยถากรรม พี่น้องต้องเผชิญกับเหตุการณ์อย่างเดิม”

อดิศร (พรรคเพื่อไทย) : เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นตรงข้ามกับคุณจำลอง (พรรคพลังประชารัฐ) ทั้งหมด เพราะพรรคเพื่อไทย ยืดหยัดในระบอบประชาธิปไตยต่อต้านการรัฐประหาร เราจะไม่ยอมให้คนที่ทำรัฐประหารมาเป็นนายกฯ อีกต่อไปอย่างเด็ดขาด ประสบการณ์ของแคนดิเดตทั้ง 3 คนของพรรคมีประสบการณ์มีความเป็นอาชีพ จะนำพาประเทศชาติออกจากความล้มเหลวความถดถอยเข้าไปสู่ถนนของประชาธิปไตยที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

ศักดิ์สยาม (พรรคภูมิใจไทย) : คุณอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนักบริหารที่มีประสบการณ์ สามารถทำให้บริษัทชิโนไทยที่เคยจะล้มละลายพลิกเป็น 1 ใน 3 ยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่กล้าลดอำนาจรัฐ กล้านำเรื่องที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย กล้ายืนยัน “กัญชาเสรี” จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ทั้งประเทศดีขึ้นไม่ต้องรอสวัสดิการ รัฐบาลปัจจุบันปลดล็อกแล้วแต่ยังไม่หมด

จุรินทร์ (พรรคประชาธิปัตย์) : คิดว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะสามารถตอบโจทย์ใหญ่ของประเทศได้ เพราะนโยบายชัดเจนแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องเป็นประธานอาเซียน ผมมั่นใจว่า คุณอภิสิทธิ์เป็นประธานอาเซียนได้ไม่มีปัญหา ที่สำคัญจุดยืนชัดเจน คือ ประชาธิปไตยระบบรัฐสภาไม่บังคับคนเลือกข้าง และความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อไม่การเมืองกลับไปวังวนเดิมๆ

นพ.วรรณรัตน์ (พรรคชาติพัฒนา) : คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ มีประสบการณ์การเมืองกว่า 30 ปี มีบุคลิกภาพประนีประนอมไม่ขัดแย้งกับใคร เดินตามวิสัยทัศน์ พล.อ.ชาติชาย ชุณะหวัณ ที่วางรากฐานด้านเศรษฐกิจ ความเจริญทางคมนาคมในประเทศ วันนี้คุณสุวัจน์จะเจริญรอยตามยุคน้าชาติ อย่างไรก็ตามเร็วเกินไปที่จะตอบเรื่องการจับมือกับพรรคใดร่วมเป็นรัฐบาล “ไม่สามารถบอกอะไรได้ การเลือกตั้งยังไม่เกิด และยังไม่รู้ว่าจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง”

ทพ.ศุภผล (พรรครวมพลังประชาชาติไทย) : พวกเราพรรคใหม่เป็นพรรคเล็ก เราพร้อมที่จะสนับสนุนนายกฯ สักคนที่จะสามารถกู้วิกฤตของประเทศไม่ให้หวนกลับไปทีเดิม ดังนั้นนายกฯ ใดก็ตามถูกเสนอชื่อขึ้นมาแล้วไม่นำพาประเทศไปสู่วิกฤตการณ์ก่อนการยึดอำนาจปี 57 เห็นว่าถ้า นายกฯที่เข้มแข็งพอ มีอำนาจพอที่จะทำให้ประเทศประชาชนก้าวหน้าเราก็พร้อมจะสนับสนุน พวกเรามีเงื่อนไขเดียว คือนายกฯ ใดพร้อมร่วมมือปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเราพร้อมสนับสนุน “เราไม่สามารถพูดชื่อได้ในขณะนี้ แต่หลักการเป็นเช่นนี้ นายกฯ ใดที่จะนำประเทศกลับเข้าสู่วิกฤตเราคงไม่เอา”

พรรณิการ์ (พรรคอนาคตใหม่) : พรรคอนาคตใหม่สำคัญกว่าบุคคล เพราะเป็นพรรคที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่พอแล้วไม่เอาแล้ว เบื่อหน่ายแล้วกับการเมืองในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาไม่ไปไหนอยากจะได้สิ่งใหม่ อยากจะได้น้ำใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ และพรรคอนาคตใหม่มีเจ้านายคือประชาชน มีจุดยืนชัดเจน ไม่กั๊ก ไม่แอบ บอกประชาชนตรงๆ ว่าเราไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 4 ปี นี่คือพรรคที่เป็นกองหน้าประชาธิปไตย มีเจ้านายคือประชาชน ออกนโยบายเพื่อรับใช้ประชาชน ประชาชนจึงกาให้เรา

ส่วนทำไมต้องเลือกคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี ตอบง่ายมากคุณธนาธรมีทุกอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มี 1. พล.อ.ประยุทธ์ รับราชการมาตลอดชีวิต มีทรัพย์สินร้อยกว่าล้านได้ยังไงไม่ทราบ คุณธนาธรเป็นผู้บริหารธุรกิจครอบครัว เมื่ออายุ 23 ปี ทำ 2 หมื่นล้าน เป็น 8 หมื่นล้าน คุณธนาธรยังไม่ได้เป็นนายกฯ ยังไม่เป็นรัฐมนตรี ได้รับเชิญไปเวทีโลกอย่างสง่าผ่าเผย คุณธนาธรต่อสู้เพื่อประชาชนตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา

เวทีดีเบตเลือกตั้ง 62 สัญจรครั้งแรกของช่องเวิร์คพอยท์ ที่ภาคอีสานในจังหวัดนครราชสีมา ตัวแทน 7 พรรคการเมืองประชันฝีปากแสดงนโยบายกันอย่างแซ่บครบทุกรส ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนแล้วว่า 24 มีนาจะเทใจกาให้กับพรรคไหน ช่วงเวลาระหว่างนี้ ติดตามเวทีดีเบตเลือกตั้ง ที่ช่องเวิร์คพอยท์จะสัญจรไปให้ครบ 4 ภูมิภาคกันไว้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เลือกคนที่รัก พรรคที่ใช่กันนะเออ