SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็น – วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับพ่อแม่ของ ส.ต.ธเนศ ทหารที่เสียชีวิตจากเหตุรอบวางระเบิด จ.ยะลา ได้เปิดเผยว่า ทางบ้านมีฐานะยากจน ต้องกู้เงินเพื่อนบ้านมาจัดการค่าทำศพ 30,000 บาท

จากกรณีที่คนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา โดยระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นริมเสาไฟฟ้า บริเวณ บ้านลาเตอะ ม.5 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา ซึ่งจุดนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ต่อมาจุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัย บริเวณบนหัวสะพาน ทางหลวงหมายเลข 4070 สายยะหา – กาบัง รอยต่อบ้านอาเส็น ม.6 กับ บ้านปาแดรู ม.1 ต.กาตอง อ.ยะหา และระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเขาไปตรวจสอบหลังได้รับแจ้งก็เกิดระเบิดขึ้น เนื่องจากคนร้ายจุดฉนวนด้วยวิทยุสื่อสารเกิดระเบิดดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าล้มทั้งยืนเมื่อโดนแรงดันระเบิดอย่างจัง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 47 บาดเจ็บ 5 นาย นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา และปรากฏว่า ส.ต.ธเนศ พุทโธ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อีโอดี ทหาร และชุดเก็บกู้ ศรศึก-ศรชัย ภ.จว.ยะลา เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดอีก 1 ลูก เป็นระเบิดลูกที่ 3 ส่งผลให้ชุดอีโอดีบาดเจ็บสาหัส 8 นาย ซึ่งต่อมามีรายงานว่า ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุที่บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยรวมจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดเป็น 26 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 2 ราย

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เผยว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ว่ารู้กลุ่มคนร้ายวางระเบิด กลุ่มเจ้าหน้าทหาร – ตำรวจที่เสียชีวิตแล้ว แต่ยังระบุเป็นตัวบุคคลไม่ได้ คงยังต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ความเชื่อมโยงของพยานหลักฐาน ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาโลกออนไลน์ โดยเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง Drama-addict ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “พี่เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อวาน เคยไปโพสต์ในกลุ่มคนเล่นไฟฉาย ประมาณว่าพี่แกอยากได้ไฟฉายคุณภาพสูงๆ ไว้ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่” แต่มีติดขัดเรื่องงบ เลยมาขอแบ่งปันไฟฉายจากคนในกลุ่มเฟซบุ๊ก”

“เนื่องจากไฟฉายที่ ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ ขอแบ่งปันจากคนในกลุ่มนั้น เป็นไฟฉายแรงสูง ราคาแพงกว่าไฟฉายปรกติ แต่ใช้ส่องตอนกลางคืนได้ชัดเจนและระยะทางไกลมาก ราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลายพันบาท เห็นอย่างนี้แล้ว ลองย้อนกลับไปดูข่าวเรือเหาะมูลค่าสามร้อยล้าน ดูข่าวจีที 200 ที่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบเงินจำนวนมากมายมหาศาลทำตนรู้สึกเศร้า”

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวโซเชียลอีกหลายราย ก็ได้ส่งไฟฉายไปตามที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจชายแดนใต้ (ศูนย์ข้อมูลและต่อต้านวัตถุระเบิด) ต.สะเตง
อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ ด.ต.อนิรุทธ ทำงานอยู่ด้วยหวังว่า ไฟฉายแรงสูงที่ส่งไปจะสามารถช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ ได้ต่อไป

ด้านผู้สื่อข่าว จ.นครสวรรค์ ได้เดินทางไปที่วัดท่าจันทร์ หมู่ 3 ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่สวดพระอภิธรรมศพให้กับ ส.ต.ธเนศ ที่เสียชีวิต และได้พบกับ นายพีรภัทร พุทโท อายุ 54 ปี และนางศรีอัมพร บุญเพชรอายุ 48 ปี บิดา – มารดาของ ส.ต.ธเนศ ต่างกำลังช่วยจัดแต่งสถานที่งานศพให้กับบุตรชาย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว

นางศรีอัมพร มารดาของ ส.ต.ธเนศ  ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีอาชีพขายเปิดร้านขายอาหาร ส่วนสามีป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยมีบุตรสาวอีกคนเป็นผู้ดูแล ซึ่ง ส.ต.ธเนศ จะเป็นเสาหลักส่งเงินเดือนมาช่วยเหลือครอบครัวทุกเดือน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต ตนถึงกับหัวใจสลาย เป็นลมล้มพับ ไปต่อหน้าต่อตาลูกค้าที่มารับประทานอาหาร จนต้องรีบเข้ามาช่วย

โดยก่อนหน้าที่ ส.ต.ธเนศ จะมาเป็นทหารรับใช้ชาติ เขามีจิตใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ เป็นอาสาสมัครกู้ภัยของปอเต็กตึ้ง และต่อมาก็สมัครเป็นทหารเกณฑ์ไปประจำอยู่ที่ชายแดนภาคใต้ กระทั่งปลดประจำการ จึงไปเรียนสอบเป็นทหารต่อ และกลับไปประจำอยู่ในชายแดนภาคใต้อีก ซึ่งก็ไปทหารประจำอยู่ที่นั่นมาร่วม 5 ปีแล้ว ลูกจะคอยบอกเสมอว่า
“ถ้าต้องตายในหน้าที่ ก็ถือว่าพลีชีพอย่างเป็นเกียรติในการรับใช้ประเทศชาติ”

และค่าใช้จ่ายในงานศพ ตนต้องจำใจไปขอกู้ยืมเพื่อนบ้าน จำนวน 30,000 บาท มาเป็นค่าจัดงานศพให้กับบุตรชายก่อน เนื่องจากครอบครัว มีฐานะยากจน และไม่ค่อยมีเงินเก็บ อยากจะฝากไปถึงผู้ก่อความรุนแรง ให้นึกถึงใจเค้าใจเราให้มาก และอยากให้รู้สึกถึงหัวอกคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องใจสลาย แม้ตนและสามียังทำใจไม่ได้ แต่ก็อยากจะภาวะนาขอให้เป็นความรุนแรงครั้งสุดท้าย

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณี ส.ต.ธเนตร พุทโธ ตำแหน่งปกติ พลขับรถ กรมทหารพรานที่ 47 ตำแหน่งในสนาม ผู้บังคับชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4707 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ซึ่งกองทัพบกขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ดำเนินการเกี่ยวกับพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลด้านสิทธิกำลังพลและมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการ เบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 2.6 ล้านบาท พร้อมปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ 7 ขั้น และขอรับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น “ร้อยโท” (ร.ท.)

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ในวันนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ได้จัดพิธีรดน้ำศพเรียบร้อยแล้วที่ จ.ยะลา พร้อมกับเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลตามภูมิลำเนา ที่วัดท่าจันทร์ ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และมอบหมายให้ มณฑลทหารบกที่ 31 รับผิดชอบดำเนินการพิธีศพและอำนวยความสะดวกให้กับญาติ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตในพื้นที่ให้เรียบร้อยที่สุด

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า