เสือโคร่งกินคนที่เคยล่าเหยื่อบริเวณหุบเขาตอนกลางของอินเดียถูกยิงตายแล้วหลังเจ้าหน้าที่ออกล่าครั้งใหญ่
ชาวบ้านในพื้นที่ฉลองด้วยความยินดีหลัง เสือโคร่งตัวเมียอายุ 6 ปีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกตั้งชื่อว่า T-1 ถูกยิงตาย โดยเชื่อว่าเสือตัวดังกล่าวฆ่าคนไปทั้งสิ้น 13 ศพ โดยแบ่งเป็น 10 ศพตั้งแต่ปี 2016 ภายในระยะเวลา 20 เดือน และครั้งล่าสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยแม่เสือและลูกอายุ 9 เดือนสองตัวสังหารชาวบ้านในหมู่บ้านปันหากาวา เขตยวัทมาลไปอีก 3 ศพ หลังจากนั้นชาวบ้านต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ชาวนาต้องกลับจากที่นาก่อนมืด ห้ามเดินคนเดียว และห้ามขับถ่ายในที่โล่งแจ้งซึ่งปกติเป็นสิ่งที่ทำได้ในอินเดีย
แม้มีความพยายามในการจับตัวหลายครั้งตลอด 2 ปี วางกับดักติดกล้องกว่า 100 แห่ง มัดม้าและแพะไว้กับต้นไม้เพื่อล่อ เดินตรวจตราสม่ำเสมอ แต่เสือตัวดังกล่าวก็หลบหนีได้ทุกครั้ง จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าพยายามใช้น้ำหอม Obsession fot Men ของ Calvin Klein ในการล่อให้เสือออกมาแสดงตัว
การล่าครั้งล่าสุดดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ถือปืนยาสลบและอาวุธปืนดักทางที่ชาวบ้านพบเห็นเสือ โดยทางการระบุว่าเดิมทีวางแผนใช้ยาสลบในการจับตัว แต่เมื่อยิงยาสลบแล้วเสือ T-1 คำรามและตั้งท่าจู่โจมรถจึงถูกยิงตายด้วยกระสุนนัดเดียวในระยะห่าง 8-10 เมตร โดยจะทำการชันสูตรซากต่อไป
ก่อนหน้านี้นักอนุรักษ์สัตว์ป่าเรียกร้องแก่ศาลสูงสุดของอินเดียให้จับเป็นเสือโคร่งตัวนี้ แต่ศาลสูงสุดของอินเดียกล่าวว่าหากเจ้าหน้าที่ตกอยู่ในสถานการณ์บังคับก็ย่อมยิงได้
นายเจอร์รีล บาเนท์ หนึ่งในนักอนุรักษ์บอกว่า “การฆ่าครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น”
ที่ผ่านมาอินเดียประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์เสืออย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มจาก 1,411 ตัวในปี 2006 มาเป็นมากกว่า 2000 ตัว แต่ก็หมายความว่าจำนวนสัตว์ป่าที่เป็นอันตรายต่อชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงก็มากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ซูติก บิสวัส ผู้สื่อข่าวบีบีซีอินเดียตั้งข้อสังเกตว่าเสืออาจจะโจมตีคนระหว่างที่เข้าไปเลี้ยงสัตว์ในป่า เนื่องจากรัฐบาลห้ามชาวบ้านเข้าไปเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่สงวน ชาวบ้านจึงเลือกต้อนสัตว์เข้าไปในป่า เนื่องจากพื้นที่ใกล้บ้านมีแหล่งอาหารน้อย