เส้นทางเลือกตั้ง นานแค่ไหนกว่าจะได้เลือก !?

https://youtube.com/watch?v=q4ME2ZBOIjg

การเลือกตั้งที่รัฐบาลบอกว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2561 ดูเหมือนจะมีแนวโน้มถูกเลื่อนอีกครั้ง เมื่อ คณะ สนช. เห็นว่าเนื่องจากมีคำสั่งของ คสช. ในการกำหนดกระบวนการทางธุรการของพรรคการเมืองที่จะเริ่มขึ้นในเดือน มี.ค. จึงเห็นว่าควรจะต้องมีการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวให้สอดคล้องกับคำสั่ง คสช.ดังกล่าว ทำให้คาดว่าการเลือกตั้งอาจจะเลื่อนไปในช่วงปลายปีนี้ หรือเป็นต้นปี 2562 ก็เป็นได้

คณะ คสช. ได้เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ วันที่ 22 พ.ค. 2557 โดยได้มีการหารือเรื่องเลือกตั้งมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2558 จนมาปัจจุบัน มาดูกันว่า รัฐบาล คสช เคยบอกว่าจะเลือกตั้งมาแล้วกี่หน

โรดแมปเลือกตั้ง แบบ คสช

เดือน ก.พ. 2558 หลังจากนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าพบกับนายกญี่ปุ่นก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศญี่ปุ่นว่า มีแผนจะจัดให้มีการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ.2558 หรือต้นปี 2559 แต่แล้วเมื่อช่วงใกล้ปลายปี

เดือน ก.ย. 2558 ก็มีเหตุทำให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เนื่องจาก สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้โหวตคว่ำร่าง รัฐธรรมนูญ ที่นำโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ มีมติไม่เห็นชอบ ทำให้โรดแมปการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปเป็นรอบที่ 1

ในเดือนเดียวกันนี้ หลังจากมีมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับเลขาธิการยูเอ็น โดยได้ยืนยันกับนายบัน คีมูน ว่าไทยจะดำเนินการต่าง ๆ ตามกรอบระยะเวลา สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย คาดจะสามารถประกาศเลือกตั้งทั่วไปได้ภายในกลางปี 2560

เดือน ส.ค. 2559 รัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ผ่านประชามติ แต่ รัฐบาล คสช กลับเลื่อนโรดแมปและแจ้งว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปลายปี 2560 หรือ ปี 2561 ด้วยสารพัดขั้นตอนกฎหมาย ที่ว่า สนช. ต้องเร่งออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ และกฎหมายอื่น อีกกว่า 100 ฉบับ ที่อาจกระทบกับโรดแมปการเลือกตั้งที่จะยืดเยื้อไปถึงปี 61 ถือเป็นการเลื่อนโรดแมปออกไปรอบที่ 2

เดือน ต.ค 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศจัดการเลือกตั้งใน พ.ย. 2561 หลังกลับจากการหารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อกลับถึงไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในเดือน มิ.ย. 2561 จะประกาศวันเลือกตั้ง ส่วนในเดือน พ.ย. 2561 จะให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งนี้ขอให้นักการเมืองอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะจะมีผลต่อการผ่อนปรนมาตรการ

พร้อมพูดว่า “ผมไม่ต้องการถ่วงเวลาทั้งสิ้น แต่ขอให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อยไปก่อน เพราะอยู่ในช่วงเดือน ต.ค.”

และในวันสิ้นปี 31 ธ.ค. พลเอกประยุทธ์ ยืนยัน เดินหน้าเลือกตั้งตามโรดแมป ปี 2561 และอยากเห็นปีใหม่ไร้ความขัดแย้ง พร้อมส่งสัญญาณปรามนักการเมือง ไม่รับประกันมีการเลือกตั้ง หากยังขัดแย้งสูง

ทำให้นักการเมืองหลายๆ ท่านเริ่มมีท่าที และออกมาให้ความคิดเห็นต่อการเลือกตั้ง ว่าอาจจะมีการเลื่อนออกไป รวมไปถึงท่าทีของนายก ที่ทำให้หลายฝ่ายคิดว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะลงเล่นการเมือง เป็นนายกคนต่อไป

ซึ่งในวันที่ 3 ม.ค.61 นายกยังคงยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นในเดือน พฤศจิกายน 2561 ตามเดิม และในวันเดียวกัน นายกยังได้ เปิดเผยว่า พูดออกมาว่า ตัวเองมีสถานะเป็นการเมือง ไม่ใช่ทหาร เป็นนักการเมืองที่เคยเป็นทหารมาก่อน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง มีขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 19 ม.ค ที่ผ่านมา สนช มีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 ของกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง โดยกำหนดให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วันนับแต่วันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ทำให้จะต้องมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไป โดยนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษกคณะกรรมมาธิการวิสามัญ ให้ความคิดเห็นว่า อาจจะเลื่อนไปเป็นปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562

ด้านความนิยมในตัวท่านนายกรัฐมนตรี นิด้าโพลได้ทำการสำรวจจากประชาชนทั่วประเทศ มาแทบทุกปี โดยใน 2 ปีแรก (ปี 59) ของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า

ประชาชน ร้อยละ 42.40 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ดีมาก

ร้อยละ 45.20 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ค่อนข้างดี

ขณะที่ ร้อยละ 6.32 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ไม่ค่อยดี

ร้อยละ 3.52 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ไม่ดีเลย

แต่เมื่อเข้าปีที่ 3 (ปี 60) พบว่า ร้อยละ 30.16 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ดีมาก

ร้อยละ 48.72 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯได้ค่อนข้างดี

ขณะที่ ร้อยละ 12.16 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ไม่ค่อยดี

ร้อยละ 5.20 ระบุว่า ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ ไม่ดีเลย

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในช่วง 2 ปี พบว่า เมื่อรวมสัดส่วนของผู้ที่ระบุว่าทำงานได้ดีมาก พบว่า มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่าทำงานได้ไม่ค่อยดี จนถึงระดับไม่ดีเลย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น