ประเด็นคือ – เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ยังคงสอบสวนแฟนสาวของมือปืนเหตุกราดยิงในลาสเวกัส ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
วันนี้ (5 ต.ค. 60) ความคืบหน้าเหตุกราดยิงกลางงานดนตรี ในนครลาสเวกัส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 คนบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า นางมาริลู แดนลีย์ หญิงชาวออสเตรเลียเชื้อสายฟิลิปปินส์ วัย 32 ปี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแฟนของนายสตีเฟ่น แพดด็อก มือปืนผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางจากจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์มายังท่าอากาศยานนานาชาติ นครลอสแองเจลิส เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอสอบสวนหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีกราดยิงครั้งนี้
ตำรวจสหรัฐ เปิดเผยว่า พวกเขาได้ติดต่อกับนางมาริลูทันทีหลังเกิดเหตุกราดยิงเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับนายแพดด็อก ซึ่งเธอได้เดินทางไปฟิลิปปินส์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา พร้อมมีรายงานข่าวว่า นายแพดด็อกได้โอนเงินจำนวน 1 แสนดอลลาร์สหรัฐให้นางมาริลูก่อนเกิดเหตุกราดยิงไม่กี่วัน ซึ่งตำรวจคาดว่า นายแพดด็อกต้องการให้เงินเธอไว้ใช้ตั้งตัวซึ่งน้องชายของแพดด็อกระบุว่า นายแพดด็อกรักผู้หญิงคนนี้ และเขายอมทำสิ่งต่างๆ ให้เธอ
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์และนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เดินทางไปยังเมืองลาสเวกัสเพื่อพบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและเยี่ยมผู้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอเมริกัน เนื่องจากในช่วงหาเสียง ทรัมป์แสดงจุดยืนสนับสนุนสิทธิในการครอบครองปืน ซึ่งเหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้เป็นบททดสอบ ถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาความรุนแรงจากปืนในสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีบรรดาส.ส.พรรคเดโมแครต ได้ออกมารวมตัวกันที่บันไดอาคารรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้ออกกฎหมายควบคุมการซื้อขายปืนในสหรัฐ