SHARE

คัดลอกแล้ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.

ประเด็นคือ – พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยัน ‘เปรมชัย’ กลับถึงไทยแล้ว ระบุ วันที่ 14 มี.ค.นี้ จะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก3 ข้อหา

วันที่ 12 มี.ค. 2561 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันที่ 14 มีนาคมนี้ จะครบกำหนดที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จะต้องมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน รวมขณะนี้นายเปรมชัยถูกแจ้งข้อหาแล้วอย่างน้อย 12 ข้อหา

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่า วานนี้นายเปรมชัย เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อเวลา 17.30 น. เที่ยวบิน HSLNG บินตรงจากฮ่องกงถึงดอนเมือง โดยรายชื่อผู้ที่เดินทางกลับมามีทั้งหมด 3 คน คือ นายเปรมชัย กรรณสูต, นายธรณิศ กรรณสูต บุตรชาย และนายมงคล สุวคันธ์ ส่วนนายวิเชียร รุ่งรุจิรัตน์ ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย

โดยก่อนหน้านี้นายเปรมชัย ทำหนังสือถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง แจ้งกำหนดการเดินทางไปยังบังคลาเทศ โดยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว มีลูกเรือ 2 คน และผู้โดยสาร 4 คน ตามกำหนดเดินทางออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 09.00 น.วันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา

ส่วนความเคลื่อนไหวทางคดี มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ได้สรุปข้อกล่าวหานายเปรมชัย ตั้งแต่เหตุการณ์ประกอบด้วย 9 ข้อหาเดิมที่แจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมอ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ประกอบไปด้วย

1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

4. ฐานร่วมกันพยามยามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

5. ฐานร่วมกัน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

6. ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของ กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

7. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

8. ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

9. สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

นอกจากนี้จะแจ้งเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย

1. ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

จากการตรวจสอบงาช้างที่บ้านของนายเปรมชัย โดยกองนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่า งาช้าง 4 กิ่ง ได้จดทะเบียนไว้ในชื่อของภรรยาของนายเปรมชัย คือ นางคณิตา วิทยานันท์ (ว่าเป็นงาช้างเอเชีย) ซึ่งเดิมกรมอุทยานฯ ได้เตรียมแจ้งข้อหาต่อนางคณิตา แต่เนื่องจากงาช้างที่พบ ปรากฎอยู่ภายในบ้านของนายเปรมชัย แม้ชื่อจดแจ้งจะเป็นชื่อของภรรยาก็ตาม นั้นหมายความว่า นายเปรมชัย รู้เห็นถึงการมีอยู่ของงาช้างภายในบ้าง จึงสามารถแจ้งความร่วมกันในข้อหานี้ได้

2. ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ข้อหาผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พบว่า ปืนบางกระบอก ที่ตรวจพบที่บ้านของนายเปรมชัยก่อนหน้านี้ มีนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ข้อหานี้นี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บุกค้นบ้านนายเปรมชัย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.

3. ให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ

ในส่วนข้อหาติดสินบนนั้น กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เป็นผู้ดูแลในส่วนข้อกล่าวนี้ ได้สอบปากคำนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในฐานะผู้กล่าวหา เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า