ถึงจะเกือบตายเพราะถูกสามีตบตีแต่ก็หย่าไม่ได้เพราะฟิลิปปินส์ไม่มีกฎหมายหย่า
นอกจากวาติกันแล้วในโลกนี้มีเพียงฟิลิปปินส์ ประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันแคทอลิกเท่านั้นที่ไม่มีกฎหมายหย่าร้าง ทางเลือกเดียวสำหรับสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขคือการแยกกันอยู่แต่ไม่ได้หมายความว่าหย่าขาดจากกัน จึงแต่งงานใหม่ไม่ได้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งให้การแต่งงานเป็นโมฆะ
แต่กระบวนการนี้ต้องใช้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย เฉพาะคนที่นับถือศาสนาอิสลามซึ่งมีประมาณร้อยละ 10 ในฟิลิปปินส์เท่านั้นที่สามารถหย่าร้างได้ตามกฎหมายครอบครัวของศาสนาอิสลาม
แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปี ที่รับจ้างซักผ้าเพื่อหาเงินเลี้ยงดูลูกสองคนในเมืองเกซอนคนหนึ่ง เล่าว่าเธอถูกครอบครัวบังคับให้แต่งงานตอนอายุ 18 หลังแต่งงาน เธอถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำกระทั่งคืนวันหนึ่งเมื่อ 8 ปีก่อน สามีตบตีเธอไม่หยุดจนเธอต้องหนีออกจากบ้าน และแม้จะเกือบตาย แต่ก็ไม่มีใครช่วยเธอได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้านหรือตำรวจเพราะตามกฎหมาย การทำร้ายร่างกายและการนอกใจเป็นสาเหตุทำให้การแต่งงานเป็นโมษะไม่ได้ สาเหตุที่ทำให้การแต่งงานเป็นโมฆะได้มีไม่กี่ข้อ เช่น วิกลจริต ทำให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ
เมื่อปีที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายหย่าร้างแล้วแต่ถูกคัดค้านทั้งจากประธานาธิบดีและเหล่าบิชอป ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ซึ่งโดยส่วนตัวก็แยกกันอยู่กับภรรยา ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายหย่าร้างโดยอ้างถึงกระทบที่จะเกิดกับลูก ขณะที่ฝ่ายศาสนจักรยืนกรานว่ารัฐบาลควรใช้กฎหมายอื่นเพื่อหยุดยั้งการใช้ความรุนแรงในครอบครัวแต่ไม่ควรยอมให้การหย่าร้างเป็นหนทางแก้ปัญหา
นักข่าวคนหนึ่งที่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อนเล่าว่าช่วงนั้นเธอต้องทำงานหนักมากเพราะค่าใช้จ่ายในการทำให้การแต่งงานเป็นโมฆะสูงถึงประมาณ 60,000 บาท นี่ยังไม่รวมเงินใต้โต๊ะที่ต้องจ่ายเพื่อให้ขั้นตอนต่าง ๆ คืบหน้าราบรื่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องใช้เวลาต่อสู้ทางกฎหมายนานถึง 10 ปี ตัวเลขค่าใช้จ่ายนี้ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยในฟิลิปปินส์ซึ่งอยู่ที่ปีละประมาณ 100,000 บาท “ตอนนั้นฉันเหมือนติดกับดัก ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะมีความสุข ควรมีสิทธิ์ที่จะก้าวไปข้างหน้า”
ที่มา ‘I almost died’: Abused Filipino women hope divorce will become legal The Last Country in the World Where Divorce Is Illegal