แพทย์เผย ‘พยาธิขึ้นสมอง’ อันตรายถึงชีวิต หลังสาวเปิดคลิป พยาธิยาว 4 ม. อยู่ในลำไส้

โซเชียลแห่แชร์ คลิปเตือนภัยคนชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ พบพยาธิตัวตืดอยู่ในลำไส้ยาว 4 เมตร  แพทย์แนะควรกินอาหารปรุงสุก-ล้างมือ เผยหากพยาธิขึ้นสมอง อาจเสียชีวิตได้

วันที่ 24 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เตือนภัยคนที่ชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบหนุ่มอ่างทองวัย 30 ปี เผยว่าหลังตนมีอาการปวดท้องน้อย และคันบริเวณรูทวารหนัก พร้อมถ่ายออกมาเป็นพยาธิ กว่า 10 รอบ จึงตัดสินใจเดินทางไปพบแพทย์ โดยแพทย์ได้ตรวจอาการและพบว่าเป็นพยาธิตัวตืด จากนั้นได้รับยามากินที่บ้าน และนัดตรวจอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 27 ส.ค. และหลังจากกินยา พบว่าตนได้ถ่ายออกมาเป็นพยาธิ ตนจึงนำมาทำความสะอาดและลองนำมาวัดความยาวกับแฟน พร้อมบันทึกภาพและโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อเตือนพื่อนๆ ให้ระวัง เพราะตนเป็นคนชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ ซึ่งได้รับความสนใจและมีผู้คนที่พบเห็นและแชร์ส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก

ด้าน นางพงศ์พร ครองญาติ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อ่างทอง ได้ชี้แจงว่า โดยปกติพยาธิตัวตืดที่พบเจอ จะเป็นพยาธิตัวตืดหมู ตัวตืดวัว ตัวตืดควาย ซึ่งจะเป็นพยาธิตัวแบน มีสีขาวมีลักษณะเป็นปล้องๆ ที่ผ่านมาที่เคยพบเจอพยาธิชนิดนี้ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในลำไส้คนมีความยาวถึง 15 เมตร และพยาธิชนิดนี้สามารถขยายพันธุ์ได้ในร่างกายคน จะฝังตัวในลำไส้ และเคลื่อนไหวไปอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไปอยู่บริเวณสมอง จะไปกดเส้นประสาท สาเหตุของการที่มีพยาธิตัวตืดในร่างกายเกิดจากการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด การกินอาหาร หมู เนื้อวัว เนื้อควาย ที่ปรุงไม่สุก เช่น แหนม ลาบ ก้อย โดยตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดจะพบในเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย จะมีลักษณะเหมือนเม็ดสาคู

การป้องกัน คือ ไม่ควรกินอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารทุกชนิดที่ปรุงจากเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย ต้องทำให้สุก น้ำดื่มต้องเป็นน้ำดื่มที่สะอาด และการล้างทำความสะอาดมือทุกครั้งที่มีการรับประทานอาหาร และเวลาซื้อ พวกเนื้อสัตว์มาทำอาหารให้สังเกต ถ้ามีลักษณะเหมือนเม็ดสาคูฝังอยู่ในเนื้อ ให้ทิ้งทันทีไม่ควรนำมารับประทาน ส่วนการรักษา ในขณะนี้ทางการแพทย์ มีตัวยาที่สามารถรักษาฆ่าพยาธิตัวตืด โดยตัวยาจะไปทำลายผิวนอกของพยาธิ และทำให้พยาธิเป็นอัมพาต และถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกาย ยกเว้นกรณีที่พบว่า พยาธิตัวตืดเข้าไปแพร่กระจายในสมอง ซึ่งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้