SHARE

คัดลอกแล้ว

แพทย์ เผย 24 ชม.แรก ต้องแยกเด็กๆ และโค้ช เจาะเลือดตรวจหาเชื้อก่อน เผยกังวลเชื้อโรคจากค้างคาวและแมลงต่างๆ ไม่ห่วงเรื่องสายตา

เวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 และนพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ชี้แจงหลังเข้าตรวจความพร้อมของทีมแพทย์และหอผู้ป่วย สำหรับทำการรักษาพยาบาล ‘ทีมหมูป่าอะคาเดมี่’ ทั้ง 13 ชีวิต หลังทีมค้นหาพบตัวแล้วเมื่อวานนี้ เวลา 21.30 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณเนินนมสาว เลยจุดพัทยาบีชไป 400 เมตร ภายในถ้ำหลวง ก่อนทีมแพทย์เข้าปฐมพยาบาลและรอให้เด็กๆ แข็งแรงอยู่ในภาวะที่มั่นใจว่าปลอดภัย โดยขณะนี้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีความพร้อมแล้วในทุกด้าน รอแค่เวลาการเคลื่อนย้ายเด็กๆ ออกจากถ้ำ

โดยทางโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เตรียมปิดชั้น 8 ทั้งชั้น ภายในอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน 14 ชั้น เตรียมห้องแยกโรคตามมาตรฐานวิชาชีพทางการแพทย์ เพราะผู้ป่วยอาจได้รับเชื้อจากสัตว์ในถ้ำมา จึงต้องแยกโรคไว้ชั่วคราว และทำการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อและเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงจะอนุญาตให้ผู้ปกครองและญาติเข้าเยี่ยมได้ แม้ว่าการเจาะเลือดครั้งแรกสามารถตรวจสภาพร่างกายได้กว่า 90% แต่จะต้องเฝ้าระวังต่อ 7 วัน หรืออาจจะสั้นกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน ส่วนขั้นตอนการรักษาจะมีทีมแพทย์เฉพาะทางและที่ปรึกษามากกว่า 20 คน เข้าทำการรักษา และในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ได้จัดพยาบาลดูแลประกบหนึ่งต่อหนึ่ง เพื่อให้น้องทีมหมูป่าลดความกังวลก่อนการเข้ารักษาที่โรงพยาบาล

จากการวินิจฉัยภาพเบื้องต้น คาดว่าสภาพร่างกายของเด็กๆ ไม่น่ามีปัญหาโรคหอบหืด ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลมีประวัติการรักษาโรคหอบหืดของน้องบางคนอยู่แล้ว ซึ่งหอผู้ป่วยที่ทำการรักษามีเครื่องเอกซเรย์ที่ทำการเคลื่อนย้ายได้ สามารถเอกซเรย์ปอดได้โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ทั้งนี้ ทีมแพทย์มีความกังวลถึงโอกาสการติดเชื้อของเด็กๆและโค้ช ทั้ง 13 คน โดยเฉพาะเชื้อไวรัส ไข้รากสาด และฉี่หนู ที่อาจเกิดจากค้างคาว แมลงและพาหะต่างๆ ที่อยู่ในถ้ำ จำเป็นต้องมีการตรวจอย่างละเอียด แต่เมื่อเข้ารับการรักษาแล้วก็จะวินิจฉัยโรคได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ได้ห่วงใยเจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือ ทั้งหน่วยซีลและนักดำน้ำ รวมถึงเจ้าหน้าที่อีกหลายฝ่ายที่ต้องประจำการอยู่ภายในถ้ำตลอดการทำงาน ในช่วง 10 วันที่ผ่าน เตรียมออกการ์ดให้เข้าตรวจโรคต่อไปด้วย

ส่วนเรื่องระบบสายตาหลังจากที่เด็กๆ อยู่ในความมืดติดต่อกันหลายวัน ทีมแพทย์ไม่กังวล เบื้องได้เตรียมแว่นตาดำให้ใส่ทุกคนเพื่อปรับรูม่านตาในการรับแสง และจักษุแพทย์เตรียมเปิดหอผู้ป่วย คุมแสงในห้องปิดผ้าม่านและลดแสงในระดับพอเหมาะไว้แล้ว

สำหรับหลักโภชนาการในการรักษา ในภาวะผู้ป่วยที่อดอาหารเกิน 10 วัน ถือว่ามีความเสี่ยงหากให้อาหารตามความต้องการมากเกินไปอาจทำให้เกิดความผิดพลาดของเกลือแร่ และฟอสฟอรัส แมกนีเซียมในเลือดต่ำได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆในร่างกาย

เบื้องต้น การปรับสภาพร่างกายในถ้ำ ขณะนี้ทีมแพทย์จะให้กินวิตามินบี1, น้ำเกลือ, น้ำตาล ประมาณ 200 cc ในมื้อแรก จากนั้นอีก 2 ชม. จะให้อาหารทางการแพทย์ลักษณะคล้ายกับนม อีก 200 cc. และจะให้รับประทานสลับกันแบบนี้เป็นระยะๆ ใน 24 ชั่วโมงแรก อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ขอญาติเข้าใจในขั้นตอนการรักษาหากไม่มีอาการรุนแรง อาจสามารถกลับพักรักษาที่บ้านได้ใน 7 วัน หลังเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายเด็กๆ และโค้ชออกจากถ้ำได้สำเร็จ

https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/676597222709559/

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า