SHARE

คัดลอกแล้ว

แม่ของน้องวัย 18 ปี ที่ดื่มน้ำมนต์จนเสียชีวิต อยากให้ตำรวจติดตามกลุ่มพระที่เป็นคนเอาน้ำมนต์ให้ลูกสาวดื่มมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด 

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 61 ที่ผ่านมา นางสาวสุพัก เชิดจอหอ อายุ 18 ปี ถูกพระ 3 รูปที่มาด้วยกัน หลังได้เจอกับพระกลุ่มนี้ที่บริเวณ วัดท่าเว่อ ที่เป็นวัดร้าง โดยทักว่าโดนคุณไสยมนต์ดำ ถ้าอยากหายต้องกินน้ำมนต์ 2 ถังน้ำ หรือขนาดเต็ม 2 บาตรพระถึงจะหาย เมื่อพระสงฆ์ใช้แก้วตักน้ำมนต์มาให้กิน เพียงแค่แก้วแรก ก็อาเจียนออกมา แต่พระสงฆ์ก็ยังบอกว่า ต้องกินต่อไปอีกหลายแก้ว และต้องดื่มน้ำมนต์ให้หมดทั้ง 2 บาตร โดยทุกๆแก้วที่ดื่มเข้าไป ก็อาเจียนออกมาทุกครั้ง

และอยู่ๆ ก็เกิดชักดิ้นชักงอ มือเท้าเกร็ง เมื่อทางครอบครัวพามารักษาที่ รพ.ประจำ จ.ชัยภูมิ สุดท้ายเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุสาเหตุว่า เกิดจากอาการชักรุนแรงจนช็อก ทำให้สมองขาดออกซิเจน ต่อมาวันที่ 27 มี.ค. 61 นายขาน เชิดจอหอ อายุ 48 ปี และนางดวงจิต คณาเขว้า อายุ 38 ปี พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต เข้าแจ้งความที่ สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มนี้

วันนี้ (30 มี.ค. 61) ด้านพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า “หลังครอบครัวถูกกลุ่มพระเร่ร่อนต่างถิ่นทำกับลูกสาวแบบนี้ ตอนแรกกลุ่มพระบอกว่าจะรับผิดชอบ จึดจัดเตรียมงานศพให้ลูก แต่สุดท้ายกลุ่มพระกลับหลบหนีออกจากวัดไป ไม่ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังเสร็จงานศพที่เผาศพไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 61 ที่ บ้านในตำบลเก่าย่าดี อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ และปัจจุบันยังเป็นหนี้ค่าจัดงานศพให้ลูกสาวอีก เพราะยังไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาคืนเพื่อนบ้านที่ยืมมา 50,000 บาท ในขณะที่ครอบครัวต้องหากินแบบหาเช้ากินค่ำ จึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับกลุ่มพระให้ได้โดยเร็ว”

ขณะที่ด้าน การเร่งติดตัวตัวกลุ่มพระกลุ่มนี้ ของ จนท.ตร.สภ.แก้งคร้อ ที่ล่าสุดพอเริ่มมีเบาะแสการติดตามกลุ่มพระดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ที่มีพระ 1 ใน 3 รูป ที่เป็นพระหลวงพ่อเป็นหัวทีมแก๊งพระรับทำน้ำมนต์อ้างคุณวิเศษหลอกให้คนหลงเชื่อ มีจุดสังเกตที่ขาขวาของพระหัวหน้าทีมกลุ่มนี้จะพิการเดินขากระเผก

และมีกลุ่มลูกศิษที่เป็นชาวบ้านใช้รถยนต์กระบะอีก 3 คน เคยพาตระเวนไปรับส่งพักตามสำนักสงฆ์ วัดร้างต่างๆ ไปทั่ว โดยจะมีสัญญาลักษณ์มีสติกเกอร์ติดที่รถว่า “กูบ่องึด” เป็นภาษาอีสาน

สอบถาม นางน้อย (ขอสงวนนาม) ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้กับวัดร้าง เล่าว่า “เมื่อช่วง 1 เดือนเศษ ที่ผ่านมามีกลุ่มพระสงฆ์ 3 รูป และฆารวาสชายหญิงอีก 3 คน ที่น่าจะเป็นคนต่างถิ่นพากันมาขอพักที่วัดร้าง เพื่อจำวัดชั่วคราวสักระยะหนึ่ง แล้วก็จะเดินทางไปธุดงค์ต่อ ซึ่งกลุ่มพระกลุ่มนี้ไม่น่าเชื่อถือ แต่ชาวบ้านเห็นมาขอพักชั่วคราวด้วยความไม่แล้งน้ำใจจึงให้พักเท่านั้น”

ทางด้าน นพ.ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ (สสจ.ชัยภูมิ) ให้ข้อมูลถึงประเด็นนี้ว่า “ครั้งนี้ถือว่าตรวจสอบได้ยาก ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบในวัดร้างเพื่อเก็บหลักฐาน แต่ไม่พบน้ำมนต์หลงเหลืออยู่เลย

ซึ่งกรณีที่มีการดื่มน้ำมนต์จนมีอาการดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมากในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าเป็นสาเหตุจากน้ำมนต์ด้วยหรือไม่ รวมทั้งต้องดูว่าทางตัวเด็กมีโรคประจำตัวประเภทเป็นลมชักหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ต้องมาดูว่าพิษในน้ำมนต์มาจากอะไร

รวมทั้งศพของผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้มีการส่งไปผ่าพิสูจน์ตั้งแต่แรก จึงไม่สามารถเก็บหลักฐานหรือสารพิษอะไรได้ เพราะทางญาติก็รีบเผาศพไปก่อนแล้ว ซึ่งคงต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องติดตามตัวกลุ่มพระดังกล่าวมาสอบสวน ว่าใส่อะไรลงไปในน้ำมนต์บ้าง ถึงจะทราบได้ว่ามีสารอันตรายรุนแรงมากขนาดไหนต่อไปอีกด้วย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า