แห่ปรับราคาขึ้นตามน้ำมัน

น้ำมันดีเซลราคาเกือบ 30 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการขอขึ้นราคาตาม

แก๊สหุงต้ม ขึ้นราคาถังละ 40 บาท

แก๊สหุงต้มปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ ปัจจุบันแก๊สบรรจุถังขนาด 15 กิโลกรัม มีราคา 395 บาท หรือปรับขึ้นมาประมาณ 40 บาท โดยเมื่อรวมกับค่าขนส่งแล้ว แก๊สขนาด 15 กิโลกรัม 1 ถัง อาจมีราคาขายปลีกสูงถึง 420-450 บาท ส่งผลกระทบต่อครัวเรือนและผู้ประกอบการร้านอาหาร แม่ค้าบางรายยอมรับว่า “ใช้วิธีตักกับข้าวน้อยลง แทนการขึ้นราคา”

รถเมล์ร่วม ขสมก. ขอขึ้นค่าโดยสาร 4 บาท

สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วม ขสมก.) ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร 4 บาท ระบุว่าแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เพราะราคาน้ำมันและก๊าซ NGV สูงขึ้น จึงขอเพิ่มค่าโดยสารให้สอดคล้องกับต้นทุนจริง

รถเมล์ธรรมดาและมินิบัส ขอปรับราคาจาก 9 บาท เป็น 13 บาท (ตลอดสาย)

รถปรับอากาศสีน้ำเงิน ขอปรับราคาปรับจาก 12-24 บาท เป็น 16-28 บาท (ตามระยะทาง)

รถปรับอากาศสีเหลือง ขอปรับราคาปรับจาก 13-25 บาท เป็น 17-29 บาท (ตามระยะทาง)

รถบัสโดยสาร 
ขอขึ้นค่าโดยสาร 10 สตางค์ต่อกิโลเมตร

นอกจากรถเมล์แล้ว รถบัสโดยสารก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันเช่นกัน เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2561 “เจ๊เกียว” หรือ นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร 10 สตางค์ต่อกิโลเมตร

เจ๊เกียว ระบุว่า รถบัสโดยสารมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ผู้ประกอบการจึงได้รับผลกระทบอย่างมากจากการที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นไปเกือบ 30 บาทต่อลิตร หากกระทรวงคมนาคมไม่อนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสารก็จำเป็นต้องลดเที่ยววิ่ง

รถขนส่งสินค้า ขอขึ้นค่าส่ง 5 เปอร์เซ็นต์

ด้วยราคาน้ำมันตอนนี้ นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสานบอกว่า “ยิ่งวิ่งรถ ยิ่งขาดทุน” จึงยื่นข้อร้องเรียนขอปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้า 5 เปอร์เซ็นต์ ในเบื้องต้น แม้ไม่สอดคล้องกับต้นทุนจริงๆ ที่ต้องปรับขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เกรงว่าหากขึ้นค่าขนส่งมากเกินไปจะยิ่งซ้ำเติมผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสานจะรอการตอบรับจากกระทรวงคมนาคมถึงวันที่ 10 มิ.ย. 2561 ถ้าไม่มีความคืบหน้าใดๆ อาจต้องหยุดวิ่งรถครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 15,000 คัน เพื่อลดภาวะขาดทุน และคาดว่าอาจส่งผลให้สินค้าขาดตลาดได้

ค่าไฟฟ้า อาจขึ้นราคา

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประเมินว่า มีแนวโน้มที่ค่าไฟฟ้าจะปรับขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้ามากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อาจทำให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นตามในอีก 6 เดือน

อาหารตัก ห้ามขึ้นราคา

กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า การปรับขึ้นราคาของแก๊สหุงต้มประมาณ 40 บาทต่อถัง ส่งผลระทบต่อต้นทุนของอาหารปรุงสำเร็จแค่ประมาณ 15-20 สตางค์ต่อจาน จึงเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการอาหารจานด่วนจะต้องขึ้นราคาอาหารตาม ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในจัดเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ และเปิดสายด่วน 1569 ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสหากพบร้านค้าขายอาหารเกินราคา

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ http://www.workpointnews.com

Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/

Twitter / https://twitter.com/WorkpointShorts