กระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผยแผน แก้ปัญหาสินค้าจีนไร้คุณภาพไหลถล่มประเทศ โดยแบ่งประเภทสินค้าออกเป็น 3 ประเภท คือ
สินค้าเกษตร
สินค้าอุปโภคบริโภค
สินค้าอุตสาหกรรม
ตอนนี้มีการตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ เจ้าภาพหลักอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์
มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง ร่วมกับ 20 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้แนวทางแก้ปัญหาสินค้าต่างประเทศที่ไร้คุณภาพเข้ามาตีตลาดจนผู้ประกอบการไทยสะเทือน
TODAYBizview สรุปมาให้ ดังนี้
1. บังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มข้น โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการตรวจสินค้า ที่ด่านศุลกากร ด้วยการเพิ่มความถี่ในการเปิดตู้สินค้า เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน การเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเว็บไซต์และสินค้าที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นไปตามกฎหมายไทย การเพิ่มจำนวนตัวอย่างการเก็บสินค้าสำหรับตรวจสอบสารพิษตกค้างให้มากขึ้น พร้อมทั้งจัดกลุ่มสินค้าเกษตรตามความเสี่ยงของการพบสารพิษตกค้างมาตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ ให้ทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง
2. ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าในอนาคต โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการออนไลน์จากต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและมีสำนักงานในไทยเพื่อให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลได้
3. ผลักดันให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องจด VAT โดยการปรับปรุงประมวลรัษฎากรกำหนดให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าในไทยต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร
4. ช่วยเหลือ SMEs ไทย ผ่านการให้ความรู้และการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เช่น การอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบธุรกิจ การจัดมหกรรมส่งเสริมธุรกิจ การส่งเสริมด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผู้ประกอบการไทย และจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์เพื่อยกระดับธุรกิจไทยให้มีความพร้อมและเข้าใจตลาดมากขึ้น
5. สร้างและต่อยอดความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้น ขยายความร่วมมือด้วยแพลตฟอร์ม e-Commerce กับต่างชาติ การส่งเสริมนวัตกรรมสู่ตลาดต่างประเทศผ่านการลงนามความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานระดับประเทศในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงผลักดันสินค้าไทยให้สามารถจำหน่ายบนแพลตฟอร์มต่างชาติ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการแจ้งเตือนไปยังแพลตฟอร์ม เกี่ยวกับปัญหาการจำหน่ายหรือโฆษณาสินค้าไม่ได้คุณภาพ/ผิดกฎหมาย การติดฉลากสินค้าและคู่มือการใช้งานภาษาไทย การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขอความร่วมมือให้แพลตฟอร์มออนไลน์นำสินค้าดังกล่าวออกจากแพลตฟอร์ม
สุดท้ายเมื่อแก้แล้ว อีกจุดสำคัญคือผลักดันให้สินค้าไทยมีมาตรฐานสากล ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อจะเพิ่มสัดส่วน SMEs ต่อ GDP เป็น 40% ตามเป้าหมายในปี 2570
มารอดูกันว่าแผนเหล่านี้จะได้ผลหรือไม่