โซเชียลถล่ม “ปะยางมหาโหด” แผลเดียว 950 บาท

โลกออนไลน์วิจารณ์สนั่น สาวโพสต์ รถยางรั่วกลางทาง ร้านปะยางที่อยู่ละเเวกนั้น มาปะยางให้ คิดราคาบริการนอกสถานที่ 600 ค่าปะยาง 350 บาท รวม 950

วันที่ 21 พ.ย. 61 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ภารดี ผาจีน ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 19 พ.ย. เกี่ยวกับการประสบเหตุการณ์รถยนต์ยางรั่ว มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ ตรงบุญบันดาล อาสาพาไปร้านปะยางใกล้ๆ โดยถูกคิดค่าบริการนอกสถานที่ 600 บาท และค่าปะยางอีก 350 บาท ซึ่งในกระแสโลกโซเชียล มีการคอมเมนต์ ถล่มทั้งวินจักรยานยนต์ และร้านปะยางยับ

วันนี้ (21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาวภารดี โดยได้รับการเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 19 พ.ย. เวลา 14.00 น. โดยตนได้ขับรถกลับจากที่ทำงาน เพื่อที่จะกลับยังบ้านพัก จากนั้นมีความรู้สึกว่ายางรถน่าจะรั่ว จึงได้นำรถเข้าจอดข้างทางเพื่อลงมาดู จึงเห็นว่าล้อรถหน้าซ้ายยางแบน ไม่เหลือลมเลย

จากนั้นได้มีคนขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งอยู่แถวนั้นบอกกับตนว่า น้องไม่ต้องขับต่อไปหรอก เดี๋ยวจะบดไปทำให้แม็กจะคด จะงอได้ โดยบอกให้ตนขยับรถเข้ามาจอดตรงบริเวณหน้าวินที่ตนเองจอดอยู่ และก็อาสาที่จะไปตามช่างมาปะยางให้

จากนั้นไม่นานวินรถจักรยานยนต์ก็ไปรับลุงนั่งซ้อนท้ายมาคนหนึ่ง ลุงปะยางได้ถามตนเองว่า มียางอะไหล่หรือไม่ ซึ่งตนเองได้ตอบไปว่า ยางอะไหล่ได้ใช้เปลี่ยนกับล้อหลังของรถไปแล้ว

จากนั้นลุงได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปนำล้อที่ร้านมาลุงมาใส่ให้เพื่อให้ตนขับรถไปที่ร้านได้ แต่เนื่องจากว่าล้อที่นำมาเล็ก ซึ่งเป็นคนละไซด์กันกับรถตน ลุงปะยางจึงได้นำอุปกรณ์แม่แรงมาขึ้นรถไว้ และถอดยางของตนออกไป เพื่อที่จะนำไปปะที่ร้าน และจะนำใส่ให้ตรงนี้ ซึ่งคิดค่าแรงนอกสถานที่ เป็นจำนวน 600 บาท

ตนเองก็เข้าใจว่า 600 บาทนั้นรวมค่าปะยางด้วย ตนจึงได้ตอบตกลงไป จากนั้นได้มีจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งรู้จักกับตนขับผ่านมาพอดี ตนจึงได้ขออาศัยไปร้านปะยางด้วย และเมื่อถามอาการของยาง และขอลดราคาค่าบริการ 600 บาท ลุงกลับบอกว่า ทำงานนะ ไม่ได้เที่ยวเล่น ทำงานมันเหนื่อย และได้แจ้งไปแล้วว่าค่าบริการนอกสถานที่ 600 บาท และชี้ให้ตนดูค่าบริการปะยางที่ติดอยู่หน้าร้าน ราคา 350 บาท ตนจึงได้เข้าใจว่าค่าบริการ 600 บาทยังไม่รวมค่าปะยางอีก 350 บาท ซึ่งถ้ารวมกัน ตนจะต้องเสียค่าปะยางในครั้งนี้ถึง 950 บาท ซึ่งตนก็ไม่อยากมีปัญหาจึงได้ยอมจ่ายให้กับลุงปะยางไปเป็นจำนวนเงิน 950 บาท

ส่วนเรื่องที่ตนได้นำข้อความโพสต์ลงในเฟซบุ๊กนั้น นางสาวภารดีกล่าวว่า ตนเป็นคนที่มีเพื่อนในกลุ่มเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก จึงอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองได้พบเจอมาในกลุ่มเพื่อนๆ เกี่ยวกับค่าบริการปะยาง โดยหวังเพียงว่าอยากให้เพื่อนๆ ได้แชร์ประสบการณ์ และแนะนำร้านปะยางที่ถูกและดี ก็เท่านั้น ซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะมีคอมเม้นต์เข้ามามากถึงขนาดนี้ ส่วนเรื่องวินจักรยานยนต์รับจ้างนั้น ตนเองไม่รู้หรอกว่าจะมีส่วนรู้เห็นกับลุงปะยางหรือไม่

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 57 ปีเจ้าของร้านปะยาง ได้เปิดเผยว่า มีคนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างได้เข้ามาหาตน บอกว่ามีรถยางแบนอยู่บริเวณใกล้กับร้านปะยางให้ตนไปดู ตนจึงได้บอกไปว่าถ้าให้ไปปะยางข้างนอกจะต้องคิดค่านอกสถานที่ ซึ่งตนเองได้คิดไปเป็นจำนวนเงิน 600 บาท ทางเจ้าของรถก็ตอบตกลง

เมื่อตนเข้าไปดูเห็นว่ายางหมดอายุ ตนเองจึงได้ถามไปว่าจะซื้อยางใหม่ไหม ซึ่งทางเจ้าของรถบอกว่าให้ปะไปก่อน ซึ่งตนเองก็มีราคาบอกหน้าร้านว่าปะยางราคาเท่าไร โดยมีราคาบอกกลางวัน และกลางคืนจะต่างกัน

โดยกลางคืนจะเพิ่มไปอีก 50 บาท ซึ่งถ้าปะยางขอบธรรมดา 350 บาท เป็นการปะแบบสตรีมอย่างดี แต่ยางที่มาปะขอบ 17 ด้วย ซึ่งค่าปะจะแพงกว่า ตนเองก็ยังคิดแค่ 350 บาท ซึ่งก็ได้ลดให้ไป แต่เมื่อปะให้ไปเสร็จแล้ว และใส่ยางให้เรียบร้อย ถึงเวลาจ่ายเงินกลับถูกเจ้าของรถโวยวาย

ซึ่งตนก็ได้ทำงานให้จนเรียบร้อยหมดแล้ว แต่ผู้เสียหายกลับมาขอลดราคา มันไม่ถูกต้อง แล้วยังมีการนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียลอีกว่า ร้านตนเองนั้นคิดเงินแพง ซึ่งตนเองก็ได้บอกว่า ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย แต่ถ้าหากไม่หยุด ตนก็จะฟ้องร้องหมิ่นประมาท ทำให้ตนเองเสียหาย

นายเอยังกล่าวเสริมอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีรถลูกค้ายางเสีย ซึ่งตนเองก็ได้ออกไปเปลี่ยนยางเปอร์เซ็นต์ให้ไป โดยคิดค่าบริการนอกสถานที่และเปลี่ยนยางเปอร์เซ็นต์ให้ไปเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท แต่มาตอนเช้า ไม่ทราบว่าใครขี่รถจักรยานยนต์มาขว้างปลาร้าใส่หน้าบ้าน โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่ากลิ่นยังตลบอบอวลอยู่เลย แต่ตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

ทางด้านนายโต้ง คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างกล่าวว่า ตนเห็นผู้หญิงขับรถมาแล้วยางแบน เกรงว่าล้อแม็กจะคด จะงอ ตนจึงอาสาไปตามช่างมาให้ ซึ่งก็ให้ทางเจ้าของรถตกลงกับทางช่างปะยางเอง โดยตกลงราคากันในราคา 600 บาท

แต่พอเวลาช่างนำยางขึ้นรถไปกลับเป็นราคา 950 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่รู้เรื่องด้วยเลย ตนเองก็เห็นว่ามันใกล้ และไม่รู้ด้วยว่าช่างจะเรียกแพงขนาดนี้ ถ้าตนรู้ก็คงไม่พาไป ส่วนในคอมเม้นต์ที่ว่าตนรู้เห็นเป็นใจกับช่างนั้น ทำให้เสื่อมเสียวินจักรยานยนต์ที่ตนขี่อยู่ ทำให้เสียถึงส่วนรวม ที่ตนเองทำไปเพราะความสงสาร ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ตนจะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวด้วย ซึ่งตนวิ่งรถไปกลับตั้ง 3-4 รอบ ก็คิดเพียงแค่ 50 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเอเจ้าของร้านยาง เคยตกเป็นข่าวร้านปะยางแพงในจังหวัดสระบุรี เมื่อ ปี 58 มาแล้ว ครั้งหนึ่ง ซึ่งเคยมีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบแล้ว