‘โตเกียว’ แชมป์เมืองปลอดภัยที่สุดในโลก 2560 ส่วน ‘กทม.’ อยู่ที่อันดับ 49 จาก 60

ประเด็น -โตเกียว สิงคโปร์ และโอซะกะ ถูกจัดอันดับเมือง 3 อันดับแรก ที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก ประจำปี 2560 ส่วนกรุงเทพมหานครอยู่อันดับที่ 49 จาก 60 อันดับ รั้งท้ายอันดับที่ 12 นับจากเมืองที่มีความปลอดภัยต่ำสุด

ดัชนี้อันดับเมืองที่มีความปลอดภัยประจำปี 2560 (Safe Cities Index 2017) เป็นรายงานจาก The Economist ซึ่งจัดอันดับจาก 60 เมืองทั่วโลก โดยมีปัจัยตัวชี้วัด 49 ตัว ครอบคลุมด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยี ความปลอดภัยในชีวิต ระบบประกันสุขภาพ และความปลอดภัยทางโครงสร้างพื้นฐาน

โตเกียว (ญี่ปุ่น) ถูกจัดอันดับเมืองที่มีความปลอดภัยที่สุดอันดับ 1 ของโลก ได้รับคะแนนโหวตกว่าร้อยละ 89.8 จากปัจจัยชี้วัดดังกล่าว ตามมาด้วยสิงคโปร์ ที่คะแนนร้อยละ 89.64 และโอซะกะได้รับการโหวตร้อยละ 88.87 ตามลำดับ ซึ่งเมือง 3 อันดับแรกไม่เปลี่ยนไปจากการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปี 2558 และจะสังเกตได้ว่า 10 อันดับแรกเป็นเมืองใหญ่ในเอเชียและยุโรป

โทรอนโต (แคนาดา) ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 จากอันดับ 8 เมลเบิร์น (ออสเตรเลีย) จากขึ้นมาอยู่อันดับ 5 จากอันดับ 9 และฮ่องกงขึ้นมาติด 10 อันดับเมืองปลอดภัย โดยอยู่อันดับ 9 จากอันดับ 11

ด้านสตอกโฮล์ม (สวีเดน) หล่นมาอยู่อันดับที่ 8 จากเมื่อปี 2558 อยู่ที่อันดับ 4 ของโลก ส่วนอัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) หล่นมาอยู่ที่อันดับ 6 แต่นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา) ตกฮวบจากอันดับ 10 ไปอยู่ที่อันดับที่ 21

หากดูจากอันดับที่ 60 ได้แก่เมืองการาจี (ปากีสถาน) เป็นเมืองที่เพิ่งได้รับการจัดอันดับในปีนี้  ตามมาด้วยกรุงย่างกุ้ง (เมียนมา) ธากา(บังกลาเทศ) จาการ์ตา (อินโดนีเซีย) และ โฮจิมินห์ซิตี้ (เวียดนาม) ตามลำดับ ซึ่งเมืองที่อยู่ในอันดับท้ายๆ สะท้อนว่า เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยในชีวิตต่ำ เสี่ยงต่อภัยก่อการร้าย รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรบ่อยครั้ง

ส่วนกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีึความปลอดภัยที่สุดในโลกอยู่ที่อันดับ 49 จาก 60 อันดับ โดยหากแบ่งตามปัจจัยชี้วัดแล้ว กรุงเทพฯ มีความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีอยู่ที่อันดับ 52 (คะแนนร้อยละ 44.44) ความปลอดภัยด้านสุขภาพอันดับที่ 37 (คะแนนร้อยละ 66.64) ความปลอดภัยทางโครงสร้างพื้นฐานอันดับที่ 43 (คะแนนร้อยละ 68.33) ความปลอดภัยในชีวิตอันดับที่ 49 (คะแนนร้อยละ 60.80) และมีความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายสูงอันดับ 4 รองจากเมืองการาจี อิสตันบลู (ตุรกี) และมุมไบ (อินเดีย)

ที่มา: The Telegraph, safecities.economist

ขอบคุณภาพจาก: Pixabay