โผล่อีกแก๊ง! อุ้มสาวเรียกเงินล้าน หวิดจับยกแก๊ง รวบได้ 1 ราย คาดปมยาเสพติด

ภาพ 3 คนร้าย อุ้มเรียกค่าไถ่ นางหลี่ เลาจาง

สาวใหญ่ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ 1 ล้านบาท ตร.เร่งช่วย คนร้ายไหวตัวลากเหยื่อหนีทัน รวบได้ 1 ราย คาดถูกขังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เผยเลือกเป้าหมาย กลุ่มพัวพันยาเสพติด เชื่อมีเงินซุกซ่อนจำนวนมาก

วันที่ 8 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ บุกเข้าช่วยเหลือ นางหลี่ เลาจาง อายุ 50 ปี ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มตัวไปกักขังไว้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงินถึง 25 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 คน ซึ่งทั้งหมดซัดทอดว่า “เสี่ยเปา” เป็นผู้บงการ ขณะที่ตำรวจเร่งขยายผลติดตามจับกุมมาดำเนินคดี โดยระบุว่ากลุ่มผู้ต้องหาอยู่ในวงการค้ายาเสพติด ที่มีข้อมูลของครอบครัวผู้เสียหายที่เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาก่อน

ล่าสุด พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า นอกจากคดีของ นางหลี่ แก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ยังจับตัว น.ส.สุดาภรณ์ ค้าแก้ว อายุ 52 ปี ไปจากร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านขัวแคร่ หมู่ 17 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนร้ายที่มี 8 คน ได้นำตัว น.ส.สุดาภรณ์ ไปกักขังไว้ พร้อมกับเรียกค่าไถ่จากญาติเป็นเงิน 1 ล้านบาท

ต่อมาญาติได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ จนมีการวางแผนเพื่อจับกุม โดยชุดสืบสวนได้ให้ญาตินัดหมายส่งมอบเงินเพื่อไถ่ตัว แต่จับกุมได้เพียง 1 คน คือ นายวีระยุทธ์ ละหู่นะ ชาวตำบลเทิดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 7 คน ไหวตัวทัน นำตัว น.ส.สุดาภรณ์ หลบหนีไปได้ ล่าสุดคาดว่าจะหลบหนีไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทางตำรวจกำลังประสานงานกับหลายหน่วย เพื่อติดตามจับกุมและช่วยเหลือ น.ส.สุดาภรณ์

สำหรับพฤติการณ์ก่อเหตุของแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ที่กำลังก่อเหตุในช่วงนี้ ตำรวจเชื่อว่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาก่อน จะเลือกเหยื่อที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพราะเชื่อว่ามีเงินซุกซ่อนไว้จำนวนมาก ทั้งคดีของ นางหลี่ ที่มีเครือญาติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนเคยถูกจับกุมมาก่อน เช่นเดียวกับ น.ส.สุดาภรณ์ ที่มี นายพิทักษ์ สมุหทัย ผู้เป็นสามี ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมไปเมื่อ 4 ปีก่อน และยังเชื่อว่า “เสี่ยเปา” ที่ผู้ต้องหาซัดทอด อาจเป็นหนึ่งในเจ็ดกลุ่มผู้ต้องหาที่ทางตำรวจกำลังติดตามจับกุมอยู่ในขณะนี้ด้วย

พล.ต.ต.ภาณุเดช ระบุว่า แม้กลุ่มผู้ต้องหาและผู้เสียหายล้วนแต่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่การลักพาตัวเรียกค่าไถ่ก็ถือเป็นพฤติการณ์ที่ผิดกฏหมาย ที่ตำรวจจะต้องติดตามช่วยเหลือและจับกุมผู้ต้องหา ส่วนเรื่องยาเสพติด หากใครมีหมายจับหรือพฤติการณ์เกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน