SHARE

คัดลอกแล้ว

ยายวัย 66 ผู้ดูแลคนพิการ โครงการจ้างเหมามาตรา 35 เพิ่งรู้ตัวถูกอมค่าจ้างเลี้ยงหลานพิการ 2 ปี วงเงินกว่า 2 แสนบาท ขณะที่ได้รับจริงตลอดปีไม่ถึง 4.8 หมื่น ชี้ถูกหลอกให้เซ็นสัญญาย้อนหลัง รับเดือนละ 4,000 บาท สงสัยประธานชมรมทุจริตเงินโครงการ

จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนเรื่องเงินค่าจ้างผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละกว่า 100,000 บาทต่อปี หรือเดือนละเกือบ 10,000 บาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกเงิน ด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชี ก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000 – 4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ขณะที่ประธานชมรมฯ ยืนยันความโปร่งใส จ่ายค่าจ้างให้ตามข้อตกลงตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 ตุลาคม 2561) ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ ยังติดตามปัญหาการร้องเรียนจาก นางฐานิดา อนุอัน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 บ้านเสริมชัยศรี ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ดูแล น.ส.อทิตยา อนุอัน หรือ น้องอี๊ฟ อายุ 17 ปี ลูกสาว ซึ่งมีความพิการทางสติปัญญา โดยนางฐานิดานำผู้สื่อข่าวไปพบ นางราตรี คามุลทา อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 บ้านหนองสอ ต.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแล น.ส.มาลา สาแม หรือ น้องบีม อายุ 15 ปี หลานสาว มีความพิการทางสติปัญญา ซึ่งนางราตรีเป็นหนึ่งในผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 เป็นปีที่ 2

นางราตรี คามุลทา

นางราตรี กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2560 ได้รับการชักชวนจากเครือข่ายชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ให้นำหลานพิการสมัครเข้าชมรมฯ โดยต้องนำหลานเข้ารับการบำบัดที่ชมรมฯ สัปดาห์ละ 3 วัน คือวันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ ซึ่งจะได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 1,000 บาท หากขาดวันใดวันหนึ่งก็จะถูกหักเหลือ 600 บาท ซึ่งตนก็ได้สมัครและมอบสมุดเงินฝากพร้อมบัตรเอทีเอ็มไว้ที่ชมรม ตามที่ประธานชมรมบอก

ปีที่ผ่านมาก็จะพาน้องบีมนั่งรถรับจ้างไปเข้าชมรม เพราะปกติอยู่บ้านเลี้ยงหลานพิการคนเดียว ส่วนพ่อแม่น้องบีมและลูกคนอื่นๆ ไปทำงานต่างจังหวัด การเลี้ยงดูน้องบีมจึงตกเป็นภาระของตน และเหตุที่ตัดสินใจไปสมัคร เพราะอยากให้น้องบีมได้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังจะได้เงินค่าจ้างเพื่อเป็นค่านม และของใช้ส่วนตัวน้องบีมอีกด้วย เฉลี่ยปีที่ผ่านมาได้รับค่าจ้างเป็นเงินสดเดือนละ 4,000 บาท หรือได้รับจริงตลอดปีไม่ถึง 48,000 บาท

นางราตรี ยอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าได้เซ็นสัญญาเป็นลูกจ้างหรือผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาผู้ดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ซึ่งจะได้ค่าจ้าง 109,500 บาทต่อปี หรือเดือนละ 9,125 บาท ที่รู้คือพอสิ้นเดือนก็ได้รับเงิน 4,000 บาท หรือหากสัปดาห์ใดไปไม่ครบ 3 วัน ก็จะถูกหัก 600 บาท กระทั่งมีข่าวโกงเงินคนจนในหลายจังหวัด และนางฐานิดาไปร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ซึ่งโยงมาถึงชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ตนได้ยินข่าวรู้สึกไม่สบายใจ ในระยะหลังจึงไม่พาน้องบีมไปเข้าชมรมอีก

นางราตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อไม่พาหลานไปเข้าชมรมฯ ประธานชมรมฯ ก็เอารถมารับตนกับน้องบีมถึงที่บ้าน แต่ตนก็ไม่ยอมไป กระทั่งเมื่อตอนเย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ประธานชมรมฯ ได้มาหาตนที่บ้าน พร้อมนำเอกสารมาด้วยแผ่นหนึ่ง พร้อมบอกให้ตนเซ็นรับรองในเอกสารแผ่นนั้น โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 ตนพาน้องบีมไปรับยา ช่วยเซ็นรับรองให้หน่อย ตนเป็นคนแก่ หูตาไม่ดี อ่านหนังสือไม่ออก ก็ยอมเซ็นให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ในที่สุดก็เพิ่งรู้ว่ามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส หลอกให้เซ็นรับรองสัญญารับข้อตกลงให้หักค่าแรงเหลือเดือนละ 4,000 บาท ซึ่งเป็นการเซ็นเอกสารที่ประธานชมรมฯ แต่งขึ้นมาใหม่ หลังมีข่าวนางฐานิดาไปร้องเรียน

ด้าน นางฐานิดา อนุอัน ผู้ดูแล นางสาวอทิตยา อนุอัน หรือ น้องอี๊ฟ ลูกสาววัย 17 ปี พิการทางสติปัญญา ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า จากการตรวจดูเอกสารฉบับที่นางราตรีเซ็น พบพิรุธชัดเจน เพราะเท่าที่ตนทราบและสอบถามนางราตรี ที่เป็นผู้ดูแลคนพิการ ตามโครงการจ้างเหมาบริการ มาตรา 35 ด้วยกัน ยืนยันว่าไม่เคยได้รับฟังคำชี้แจง หรือรู้รายละเอียดในสัญญาที่ทำกับ บริษัท ไทย เอ็นโอเอ จำกัด ในฐานะผู้ว่าจ้าง กับผู้ได้รับสิทธิ์ มาตรา 35 ในฐานะผู้รับจ้าง รวมทั้งความชัดเจนในเรื่องค่าจ้างเลย รู้แค่ว่าประธานชมรมฯ แนะนำให้ไปเปิดบัญชี แล้วให้นำสมุดเงินฝากและบัตรเอทีเอ็มมาเก็บไว้ที่ชมรมฯ โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 2,000 – 4,000 บาทเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ มารู้หลังจากร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ

“พิรุธที่เห็น ขัดต่อคำตอบของประธานชมรมฯ ว่ามีการทำความเข้าใจก่อนทำสัญญา ซึ่งในช่วงนั้นน่าจะเป็นราวเดือนมกราคม 2561 แต่วันที่ที่ระบุในหนังสือฉบับที่นำมาให้นางราตรีเซ็น กลับลงวันที่ 20 กันยายน 2561 หลังจากที่มีหลักฐานสัญญาที่ระบุไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 นานถึง 8 เดือน และนอกจากนี้ชื่อบุคคลที่ลงชื่อรับรองในชุดเดียวกับนางราตรี ซึ่งหมายถึงผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ตามโควตาของบริษัทดังกล่าวปีละ 10 คน  กลับไม่มีชื่อของตนคือนางฐานิดา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับจ้างนั้น แต่กลับมีชื่อคนอื่นแทนที่ แล้วอย่างนี้จะเกิดความโปร่งใสได้อย่างไร จึงจะเดินหน้าเรียกร้องภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เพื่อคืนสิทธิ์และความชอบธรรมให้ผู้ดูแลคนพิการ ที่เงินค่าจ้างตามโครงการจ้างเหมาบริการดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ถูกยักยอกไป 2 ปี ว่าไปอยู่ในกระเป๋าของใคร” นางฐานิดา กล่าว

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า