SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – น้องสตางค์ เด็กหญิงยอดกตัญญู วัย 12 ขวบ ทั้งเรียนหนังสือ ทั้งทำงานพิเศษ เพื่อหาเงินมาดูเเลพ่อที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการ เผย อยากเรียนพยาบาล จะได้รักษาผู้เป็นพ่อ 

จากกรณีที่บนโลกโซเชียลได้พากันเผยเเพร่ความกตัญญูของน้องสตางค์ เด็กหญิงวัย 12 ขวบ ที่ต้องคอยดูแลพ่อซึ่งล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ และต้องไปเรียนหนังสือ กลับมารับจ้างช่วยขายผัก เก็บขวดตามถังขยะขายหาเงินมาประทังชีวิต เลี้ยงดูผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า จ่ายค่าน้ำค่าไฟ เเละค่าเช่าห้อง ที่อยู่สภาพเก่าซมซ่อ

เหตุเนื่องจากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา พ่อของน้องสตางค์ที่ประกอบอาชีพก่อสร้างได้เกิดพลัดตกจากนั่งร้านที่มีความสูงเท่าตึก 3 ชั้น จนกระดูกต้นคอแตก แต่ไม่ถึงกับหลุด เเล้วไปกดทับเส้นประสาทส่วนล่าง ทำให้ขาทั้งสองข้างใช้งานไม่ได้ หลังจากที่ภรรยาดูแลอยู่ได้ประมาณ 3 ปี ก็หอบลูกคนเล็กหนีความลำบากไป  และพยายามชวนน้องสตางค์ให้ไปด้วย แต่ด้วยความกตัญญูเห็นถึงความลำบากของผู้เป็นพ่อ สมัยที่ยังไม่พิการ ที่ต้องทำงานอย่างหนักหาเลี้ยงครอบครัว น้องสตางค์ ตัดสินใจอยู่ดูแลพ่อ ไม่ยอมหนีไปกับแม่บังเกิดเกล้า

น้องสตางค์พูดว่า “ถ้าหนูไป แล้วพ่อจะอยู่อย่างไร” ซึ่งด้วยคำพูดดังกล่าวทำเอาผู้เป็นพ่อถึงกับน้ำตาไหล โดยพ่อเคยเอ่ยปากถามลูกว่าเหนื่อยไหม แต่คำตอบที่ได้ออกมาจากปากลูกสาววัย 12 ขวบ กลับเหมือนน้ำทิพที่ประโลมใจของผู้เป็นพ่อว่า หนูเหนื่อยไม่เท่ากับที่พ่อเหนื่อย แม้ว่าบางครั้งเด็กสาววัย 12 ขวบเหนื่อยแทบขาดใจ และมีความถ้อแท้กับชะตาชีวิตของครอบครัวตัวเองถึงกับนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน โดยไม่ยอมให้ผู้เป็นพ่อได้เห็นน้ำตาของตัวเอง

หลังจากข้อความเรื่องความกตัญญูของเด็กสาววัย 12 ขวบถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนมือเข้ามาให้การช่วยเหลือพร้อมด้วยประชาชนผู้ใจบุญได้นำสิ่งของและร่วมบริจาคช่วยเหลือครอบครัวของน้องสตางค์ แต่ก็เหมือนไฟไหม้ฟาง ใหม่ๆ ก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างดี แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า ทุกอย่างก็ถูกลืมมีเพียงสำนักงานสังคมสงเคราะห์ ที่ยังยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือโดยการมอบข้าวให้เดือนละ 2 ถุง แพมเพิสผู้ใหญ่ 2 ห่อ และเงินอีก 500 บาท มอบให้เดือนละ 1 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคช่วยเหลือมาก็เหลือน้อยเต็มที เนื่องจากต้องเก็บไว้ให้เป็นค่าเล่าเรียนของน้องสตางค์ ที่กำลังจะเข้าเรียนในชั้นมัธยมในกลางปีหน้า  ซึ่งทุกวันนี้ต้องอาศัยเด็กวัดเอาข้าวมาให้ และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเท่านั้น

ล่าสุดวันที่ 8 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูสภาพความเป็นอยู่ของน้องสตางค์ หนูน้อยยอดกตัญญู ที่ห้องเช่าดังกล่าว ได้พบว่าเป็นห้องเช่าเล็กๆ ที่อยู่ในสภาพเก่าซอมซ่อ อยู่บริเวณปากซอยวังปลา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีพื้นที่ว่างเพียงแค่ปูที่นอนระหว่างน้องสตางค์และผู้เป็นพ่อผู้พิการเท่านั้น

เเละได้พบนายนรินทร์ อรุณวงศ์ อายุ 28 ปี ซึ่งพิการเดินไม่ได้ และที่ลำคอแพทย์ได้เจาะรูใส่ท่อสแตนเลสเอาไว้ให้ เพื่อดูดเสลดออกจากลำคอ เวลาจะพูดก็ต้องเอานิ้วมืออุดท่อดังกล่าวเอาไว้ถึงจะพูดมีเสียง โดยมีเด็กหญิงนันท์นลิน อรุณวงศ์ หรือน้องสตางค์ บุตรสาววัย 12 ขวบ คอยนั่งดูแลอย่างใกล้ชิด

โดยนายนรินทร์ได้กล่าวว่า อยากให้มีคนมาดูแลในเรื่องการศึกษาของน้องสตางค์  ในกลางปีหน้าน้องสตางค์จะต้องขึ้นไปเรียนในระดับชั้นมัธยม คงต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และตนก็อยากจะมีงานทำที่บ้าน เพราะมือทั้งสองข้างของตนยังใช้งานได้ จะได้มีเงินมาแบ่งเบาภาระในบ้านบ้าง ขอสักวันละ 50 บาทก็พอ เพราะตอนนี้ที่ห่วงก็เรื่องการเรียนของลูกสาว อยากให้เขาได้เรียนสูง ๆ

ด้านน้องสตางค์บอกว่า อยากให้พ่อหายไวๆ และอยากเรียนต่อ โดยตั้งใจไว้ว่าจะเรียนพยาบาล จะได้มารักษาพ่อให้หาย เพราะรักพ่อมากที่สุด ซึ่งปกติตนก็จะทำกับข้าวให้พ่อกิน เอากระโถนใส่สิ่งปฎิกูลที่พ่อขับถ่ายออกมาไปเททิ้งและก็ล้างช่วยเช็ดตัวล้างแผลที่ก้นให้พ่อ หลังจากนั้นจึงไปโรงเรียน

หลังจากเลิกเรียนก็เอากระสอบเดินไปเก็บของเก่าประเภทขวดน้ำพลาสติกตามถังขยะเอาไปขาย และบางครั้งก็ไปรับจ้างขายผักที่ท้ายซอย ได้ค่าจ้างครั้งละ 50 บาทบ้าง 20 บาทบ้าง แล้วแต่ว่าขายดีหรือไม่ สำหรับผู้ที่อยากร่วมบริจาคช่วยเหลือน้องสตางค์ สามารถร่วมบริจาคได้ที่  ธนาคารกรุงไทย สาขาบางปู  เลขบัญชี 217-0-38423-5 นายนรินทร์ อรุณวงศ์  หรือติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่หมายเลข  09-9701-6184

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า