ให้รองโฆษกแถลงแทน ขอประชาชนอย่าใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แถลง หลังประชุมคณะรัฐมนตรี มอบรองโฆษกแถลงแทน เน้นย้ำเรื่องอย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล รวม 8 รอบ ทั้งกรณี กกต. และข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ส่วนการที่ ผบ.ทบ.ใช้คำว่า “ฝ่ายซ้าย” พูดถึงนักวิชาการ เพราะรู้ว่ามีขบวนการบ่อนทำลาย เป็นการเตือนสติสังคม

วันที่ 2 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเลื่อนมาประชุมในช่วงบ่าย หลังจากเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าภาคเหนือ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการประชุมได้มอบหมายให้ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลงข่าวตามคำตอบที่ พล.อ.ประยุทธ์ เขียนตอบคำถามสื่อมาให้

ในกรณีการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่กดดันคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายกรัฐมนตรีมองอย่างไร พล.ท.วีรชน อ่านคำตอบของนายกฯ ว่า ทุกคนเห็นอยู่ว่ามีความพยายามจากฝ่ายไหนบ้าง ฝ่ายไหนมีการดำเนินการอย่างไร มีความพยายามที่จะทำให้สถานการณ์ไปสู่จุดไหน สื่อและเจ้าตัวที่เป็นคนทำก็รู้อยู่แล้วว่าใครบ้างที่เป็นคนทำ อยากจะให้สื่อที่มีข้อมูลในทางลึกช่วยตอบคำถามนี้ได้ แต่ในส่วนของรัฐบาล ไม่อยากปรักปรำอะไรกับใคร อยากจะให้สื่อเป็นฝ่ายให้ข้อมูลกับสาธารณชน แต่เราก็เห็นว่าไม่ได้มีกลุ่มหน้าใหม่มากนักที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ จะเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่มีการเรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ หลังเลือกตั้งเสร็จก็จะมีเรื่องอื่นเรียกร้องตามมา

ขณะที่การที่ กกต.ยังไม่เปิดสูตรการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะทำให้สังคมสงสัยการเลือกตั้งครั้งนี้มากขึ้นหรือไม่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า อยากให้คนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ฟัง กกต.ชี้แจง พยายามเปิดใจฟังเหตุผลในการชี้แจงนั้น ที่ผ่านมา กกต.ก็พยายามชี้แจงเป็นระยะว่าแต่ละขั้นตอนมีหลักการวิธีคิดอย่างไร ไม่อยากให้สังคมสรุปเพื่อจะหาคำตอบให้ตัวเองเร็วเกินไป ต้องใจเย็นๆ ฟังเหตุผล คิดโดยใช้เหตุผลให้มากกว่าการใช้อารมณ์

เช่นเดียวกับการที่คนไทยในนิวซีแลนด์ ที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับผิดชอบด้วยการลาออก จากการที่บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ไม่ได้ถูกนำมานับคะแนน ขอให้รับฟัง กกต. ที่ผ่านมาเวลามีข่าวทางโซเชียลมีเดีย หลายฝ่ายนำความคิดตัวเองมาตัดสิน ถามเองตอบเอง ไม่รอฟังคำอธิบาย และเกิดความรู้สึกไม่ได้อย่างใจ ต้องใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์

ส่วนคำถามกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ตอบโต้นักวิชาการที่เห็นต่างในหลักการประชาธิปไตยโดยใช้คำว่า “ฝ่ายซ้าย” จะทำให้สังคมขัดแย้งเหมือนในอดีตหรือไม่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคิดว่าคงไม่ได้หมายความตามนั้นทั้งหมด แต่การที่ ผบ.ทบ. ออกมาพูดเพราะมีสาเหตุ มีขบวนการที่พยายามจะบ่อนทำลายอยู่บ้าง แต่คงไม่ได้ไปเหมารวมว่าตอนนี้สถานการณ์จะรุนแรงถึงขั้นนั้น เพียงแต่เป็นการเตือนสติสังคม

สำหรับการแก้ปัญหาไม่ให้สังคมเกิดความขัดแย้งเหมือนในอดีต “วันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่ประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราอยู่ในขั้นตอนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้น สิ่งที่อยากจะเห็นก็คือเราต้องมองไปข้างหน้า เราต้องพยายามเดินหน้าและต้องไม่สร้างเงื่อนไขที่จะทำให้เราถอยหลังกลับไปอีก ท่านนายกฯ มีความเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์ตามที่สื่อกังวลจะไม่เกิดขึ้น ถ้าประชาชนใช้สติ ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ แล้วก็ไม่หลงเชื่อการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารต่างๆ”

สำหรับสาร 2 ฉบับของนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาภายหลังจากการเลือกตั้งมาจากความรู้สึกของท่านเอง ที่ห่วงใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากให้ทุกคนใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเรื่องอย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผลรวมแล้วถึง 8 ครั้ง ระหว่างการแถลงประมาณ 10 นาที