ไถเรียบ ! ป่าชุมชนราชบุรี ถูกลักลอบตัดโค่น กว่า 12 ไร่

ประเด็นคือ – จนท.และชาวบ้าน เข้าตรวจสอบที่บริเวณป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติ ถ้ำเขาทะลุ หลังได้รับแจ้งว่าป่าถูกตัดโค่น ต้นไม้ในพื้นที่ป่าชุมชนหายไปกว่า 12 ไร่ จนท.เร่งหาผู้ทำผิด

วันนี้ (14 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าฝ่ายป้องกันและรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี พร้อมกับชาวบ้านได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติ ถ้ำเขาทะลุ หมู่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หลังมีชาวบ้านในพื้นที่ได้รวมกลุ่มกันไปแจ้งความที่ สภ.จอมบึง เพื่อให้ติดตามหาตัวผู้ที่เข้ามาลักลอบนำรถแบ๊กโฮเข้ามาดำเนินการไถดัน และตัดโค่นต้นไม้ในพื้นที่ป่าชุมชนของชาวบ้านหายไปประมาณ 12 ไร่

โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐจัดกิจกรรมโครงการปลูกป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2555 และวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งมีกลุ่มรักษ์ธรรมชาติ ร่วมกับชาวบ้าน ต.รางบัว ร่วมกันจัดขึ้น บริเวณพื้นที่ป่าชุมชน ถ้ำเขาทะลุ บ้านหนองบัวค่าย โดยร่วมกันปลูก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555 มีการนำพันธุ์ไม้ต่างๆ มาปลูกไว้หลายชนิด ได้แก่ ไม้พะยูง ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เบญจพรรณอีกหลายอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายตอไม้ มาสำรวจพื้นที่การทำลาย และมีการประเมินความเสียหายไว้ โดยมีต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นทำลายไปประมาณ 1,500 ต้น

จากการตรวจสอบพื้นที่ ยังคงพบตอไม้มีทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่หลงเหลืออยู่ในพื้นที่ป่าชุมชน และยังมีต้นไม้ เช่น ต้นสะเดา ต้นมะขามป้อม ที่ยังไม่ถูกตัดโค่นไปอีกจำนวนหนึ่ง จากทั้งหมดที่ชาวบ้านได้ร่วมกันปลูกไว้จำนวน 116 ไร่ บางส่วนมีสภาพเตียนโล่ง มีกิ่งไม้จำนวนมากกองสุมอยู่บริเวณริมเขตพื้นที่ หลายจุดเริ่มมีสภาพแห้งแล้ว

นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าฝ่ายป้องกันและรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี กล่าวภายหลังได้เข้าตรวจสอบแล้วระบุว่า ป่าชุมชนแห่งนี้มีป้ายติดชัดเจน ชาวบ้านมาร่วมกันปลูกป่าเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันถูกทำลายไปประมาณกว่า 10 ไร่ สภาพป่าที่ปลูกไว้หายไปหมด เป็นลักษณะการทำโดยใช้เครื่องมือหนัก ซึ่งชาวบ้านก็ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.จอมบึงแล้ว ซึ่งผืนป่าแห่งนี้ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกป่าโดยมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยกัน แต่วันนี้ไม่มีต้นไม้หลงเหลืออยู่แล้ว ทางป่าไม้ก็จะต้องทำการตรวจยึดพื้นที่ที่ถูกทำลายไป และรวบรวมข้อมูลเพื่อไปแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวผู้ที่เข้ามาทำการแผ้วถางป่าชุมชนของชาวบ้านมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ด้านนางเติม อุ่นใจ อายุ 65 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.รางบัว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้ามาในพื้นที่ป่าชุมชนพบว่า ผืนป่าถูกแผ้วถางหายไปจำนวนมาก จึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมบึง ไว้เป็นหลักฐานในการสืบสวนหาตัวคนที่มาทำลายป่า โดยป่าแห่งนี้จะมีชาวบ้านมาทำโครงการปลูกป่าทุกๆ ปี เริ่มปลูกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 ต่อมาปี พ.ศ.2555 ได้รับงบประมาณมาจากมหาวิทยาเทคโนโลยีที่กรุงเทพฯ มาร่วมปลูกป่า ซึ่งชาวบ้านก็จะได้ประโยชน์จากป่าชุมชนหลายอย่างทั้งได้เข้ามาหาเห็ดโคน หน่อไม้ ผักหวาน รวมทั้งของป่าอีกหลายชนิด แต่เมื่อป่าถูกทำลายก็ไม่สามารถเข้ามาหาของป่ากินได้ พอชาวบ้านรู้ข่าวว่าป่าชุมชนถูกบุกรุก ต่างพากันไปแจ้งความที่ สภ.จอมบึง เพื่อให้ช่วยหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็วด้วย