ไฟไหม้โรงงานถุงมืิอยางดับแล้ว ยังขวางสื่อทำข่าว

ประเด็นคือ- เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหารเร่งเคลียร์พื้นที่บริเวณด้านหน้าโรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ที่ถูกเพลิงไหม้ หลังสามารถดับเพลิงได้แล้ว เพื่อเตรียมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ขณะเจ้าของโรงงานสั่งยามรักษาความปลอดภัยเข้มงวดบริเวณพื้นที่ด้านนอกโรงงาน ขัดขวางไม่ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพนำเสนอข่าว เพราะไม่พอใจที่สื่อนำเสนอข่าวการเกิดเพลิงไหม้ ระบุทำให้โรงงานเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 6 ก.พ. 61 ความคืบหน้าสถานการณ์เพลิงไหม้ บริษัท ไทยกอง จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ขนาดใหญ่ มูลค่าลงทุนประมาณ 1,800 ล้านบาท ตั้งอยู่ ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง เหตุเกิดตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา

ล่าสุดพบว่า สามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงมีควันไฟคุกรุ่น มีเชื้อไฟและควันไฟพวยพุ่งตลอดเวลา จนถึงขณะนี้บางจุดเจ้าหน้าที่ยังต้องฉีดน้ำ ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่ต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้มีประกายไฟประทุขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ช่วยทำงานติดต่อกันเป็นเวลาแล้วกว่า 48 ชม. จนขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งเคลียร์พื้นที่ รื้อซากปรักหักพังของโครงสร้างโกดัง ตู้คอนเทนเนอร์ และเถ้าถ่านจากการถูกเพลิงไหม้ออก เพื่อเตรียมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป

ทางจังหวัดได้เร่งระดมรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในจังหวัด กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กรมการบินพลเรือน และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เข้าช่วยเหลือตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างเต็มที่

แม้บางครั้งได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีจากฝ่ายโรงงาน เพราะมีการจัดกำลังติดตามประกบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานตลอดเวลา และคอยห้ามปรามไม่ให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้นำภาพออกสู่สังคมภายนอก สร้างความอึดอัดใจให้แก่ภาคส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยดับไฟ และกำกับการทำงานเป็นอย่างมาก พร้อมกับสิ่งห้ามไม่ให้พนักงานและแรงงานที่ทำงานกับโรงงานให้ข่าวใดๆ กับผู้สื่อข่าวที่คอยถ่ายภาพทำข่าวอยู่ด้านนอกริมถนน แม้แต่การเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุดในวันนี้ ทางโรงงานได้ส่งยามรักษาความปลอดภัยจำนวน 3 – 4 คน ออกมาเฝ้าอยู่ริมถนนและสวนปาล์มน้ำมัน นอกรั้วกำแพงโรงงาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของโรงงานเช่นกัน แต่อยู่ติดถนนใหญ่ คอยขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านถ่ายภาพ รวมทั้งขัดขวางสื่อมวลชนไม่ให้บันทึกภาพจากด้านนอกริมถนน เพื่อนำไปเสนอข่าวความคืบหน้าและการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมเอามือบังกล้องวิดีโอที่กำลังบันทึกภาพ พร้อมวิทยุเรียกเพื่อนยามรักษาความปลอดภัยให้ตามมาสมทบ โดยให้เหตุผลว่า สร้างความเสียหายแก่โรงงานเป็นอย่างมาก