SHARE

คัดลอกแล้ว

WHO ส่งหนังสือแจ้ง กสทช. ชี้คลื่นความถี่โทรศัพท์มือถือจากสถานีฐานไม่กระทบสุขภาพ ยืนยันจากผลการศึกษาร่วม 10 ปี แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ 

วันที่ 14 พ.ย. 2561 วานนี้นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ดร.อีมิลี ฟาน เดเวนเตอร์ หัวหน้าคณะรังสีวิทยา องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ทำหนังสือตอบกลับมาในวันนี้ (13 พ.ย. 2561) แล้วกรณีสำนักงาน กสทช. สอบถามในประเด็นความปลอดภัยจากคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งสัญญาณผ่านสถานีฐาน

ดร.เดเวนเตอร์ ยืนยันผลการศึกษาช่วงระยะ 10 ปี ระหว่างปี 2539-2549 ระบุไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถชี้ได้ว่าการส่งสัญญาณในคลื่นความถี่ระหว่าง 0-300 กิกกะเฮิร์ตซ์ จากสถานีฐานและการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีผลร้ายแรงต่อสุขภาพ และในปี 2553 คณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก ได้ศึกษากรณีการส่งคลื่นสัญญาณเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่จากสถานีฐานยังไม่พบหลักฐานว่าคลื่นความถี่มีผลต่อสุขภาพ อีกทั้ง องค์การอนามัยโลกยังศึกษาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันถึงความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพร่างกายกับการปล่อยคลื่นความถี่จากอุปกรณ์ไร้สายและสถานีส่งสัญญาณคลื่นโทรศัพท์ ไม่พบว่ามีความสัมพันธ์ใดๆ อีกเช่นกัน

นายฐากร กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกจะจัดประชุมในประเด็นคลื่นความถี่จากโทรศัพท์มือถือกับสุขภาพของผู้คนอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปีหน้าที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งองค์การอนามัยโลกเชิญตัวแทน กสทช.ไปร่วมประชุมด้วย

ก่อนหน้านี้นายฐากรได้ทำหนังสือไปยังองค์การอนามัยโลกลงวันที่ 9 ต.ค. 2561 ขอคำแนะนำกรณีที่ประชาชนยังคงวิตกกังวลการส่งสัญญาณคลื่นความถี่โทรศัพท์มือถือจากสถานีฐานจะมีผลต่อสุขภาพร่างกาย แม้ว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลผลการศึกษาทั้งจากองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานเกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่มาเป็นเวลาหลายปีแล้วยืนยันว่าไม่มีผลต่อสุขภาพ จึงเป็นที่มาของหนังสือตอบกลับจาก ดร.เดเวนเตอร์ ลงวันที่ 6 พ.ย. 2561

นอกจากนี้นายฐากรและผู้เชี่ยวชาญด้านคลื่นความถี่ของสำนักงาน กสทช. เดินทางเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือระดับโลกว่าด้วยนโยบายด้านสุขภาพและการวิจัยเกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือกลอร์ (Global Coordination of Research and Health Policy on RF Electromagnetic Fields : G L O R E ) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย. 2561 พร้อมกับได้รายงานสภาพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการขยายโครงข่ายโทรคมนาคมของประเทศไทยว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง โดยเฉพาะความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพจากการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนคนไทย อันเนื่องมาจากพัฒนาการที่รวดเร็วของการขยายโครงข่ายการใช้งานคลื่นความถี่แบบไร้สายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การร้องเรียนเรื่องสุขภาพมีหลากหลายในแง่ของผลกระทบเช่น ปวดศีรษะ หน้ามืด อ่อนแรง หรือแม้แต่อ้างว่าเป็นมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งการร้องเรียนต่างๆ เหล่านี้ส่งไปยังหลายหน่วยงานทั้งในระดับท้องถิ่น สื่อสาธารณะ หรือแม้แต่ศาลปกครอง

สำนักงาน กสทช. ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาวิธีแก้ไขป้องกันเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย โดยสำนักงาน กสทช. ได้ออกประกาศในปี 2549 เพื่อบังคับใช้มาตรฐานการส่งสัญญาณคลื่นความถี่ของ 1998 ICNIRP ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการกำกับการปล่อยคลื่นความถี่ รวมถึงจำกัดความแรงของคลื่นที่สถานีฐานปล่อยออกมา ซึ่งมาตรฐานนี้เป็นแนวทางที่หลายๆ ประเทศรวมถึงสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และองค์การอนามัยโลก เลือกใช้ นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. มีทีมเจ้าหน้าที่ 25 เขต สุ่มตรวจสอบสถานีฐานทั่วประเทศว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของหลักเกณฑ์ดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงยังจัดการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ประชาชนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของความปลอดภัยของการใช้งานคลื่นความถี่ และให้ทางผู้ประกอบการเอกชนสร้างความรู้และความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่มีการติดตั้งสถานีฐานด้วย

สำหรับการประชุม GLORE 2018 ทาง กสทช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องของผลการศึกษาและหลักฐานรวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาความกังวลของประชาชนที่คิดว่าคลื่นความถี่มีอันตรายต่อสุขภาพที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่นี้โดยทางสำนักงาน กสทช. ได้เสนอต่อที่ประชุมของ GLORE ว่าจะเชิญผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก สมาชิกของ GLORE ทั่วโลกเข้าที่ประชุมในประเทศไทย สำนักงาน กสทช.พร้อมจะเป็นเจ้าภาพและหารือในประเด็นต่างๆ เกี่ยวข้องระหว่างคลื่นความถี่กับสุขภาพร่างกาย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า