“ไวรัสโรตา” พรากชีวิต ลูก 5 เดือน จากอกแม่

ประเด็นคือ – แม่ใจสลาย โพสต์ถึงลูกสาววัย 5 เดือน หลังเสียชีวิต จากเชื้อ “ไวรัสโรตา” หรือภาวะลำไส้อักเสบ-ท้องร่วงรุนแรง มักพบบ่อยที่สุดในทารกและเด็ก

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก ฝากใจ ไปกับสายลม โพสต์เรื่องราวสุดเศร้าใจผ่านเพจ ทีมคนท้อง แก๊งโชว์ป่องแชร์รูปลูกน้อย โดยระบุว่า “7 วันแล้วที่ลูกจากแม่ไปอยู่บนสวรรค์ หัวใจแม่สลายเมื่อลูกต้องเจ็บปวด จากนี้ไปลูกไปสบายแล้วนะคนดีของแม่ แม่ขอโทษที่ทำหน้าที่ของแม่ได้แค่ 5 เดือน รักลูกมากคิดถึงลูกมาก นางฟ้าตัวน้อยๆของแม่จ๋า น้องพะแพงสุดที่รักของแม่นก แม่ซื้อชุดสวยมาให้หนูด้วยนะ ลูกชอบมั้ย”

ซึ่งผู้โพสต์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวว่า “น้องเสียด้วยโรคไวรัสโรตา ท้องเสียกับอ้วกพร้อมกับตัวร้อนแต่มือเท้าเย็น คุณหมอบอกน้องติดเชื้อในกระแสเลือด ร่างกายขาดน้ำรุนแรง วันเสาร์ที่จะถึงนี้จะไปทำสังฆทานให้น้องที่วัดคะ”

สำหรับโรคลำไส้อักเสบที่เกิดจาก เชื้อโรตาไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะท้องร่วงรุนแรงในทารกและเด็กเล็กที่พบบ่อยที่สุด เด็กแทบทุกคนบนโลกเมื่ออายุครบ 5 ปีจะเคยติดเชื้อนี้มาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่ละครั้งที่ติดเชื้อร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้การติดเชื้อครั้งถัดๆไปมีความรุนแรงลดลงและทำให้โรคนี้พบได้น้อยในผู้ใหญ่ ไวรัสในจีนัสนี้มีสปีชีส์ย่อยอยู่ 8 สปีชีส์ ได้แก่ เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี และเอช ที่พบบ่อยที่สุดคือโรตาไวรัสเอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อโรตาไวรัสในมนุษย์ถึง 90%

เชื้อนี้ติดต่อผ่านทางการกินอาหารที่ปนเปื้อนอุจจาระที่มีเชื้อ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดการติดเชื้อในเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เล็ก ทำให้เกิดกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ บางครั้งเรียก “ไข้หวัดใหญ่ลงกระเพาะ” แต่เชื้อนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด

สำหรับอาการเมื่อได้รับเชื้อไวรัสโรตาเข้าสู่ร่างกาย ทางเดินอาหารที่ลำไส้เล็กจะทำลายผนังลำไส้เล็ก ทำให้การดูดซึมน้ำและเกลือแร่ลดลง และเอนไซม์ (Enzyme) สำหรับย่อยคาร์โบไฮเดรตผิดปกติ ทำให้มีอาการท้องร่วง ท้องเสีย ท้องเดิน ถ่ายเป็นน้ำ ไม่มีมูกหรือเลือดปน

ส่วนในเด็กอาจจะมีไข้ มีน้ำมูกและไอเล็กน้อยคล้ายการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ แล้วมีอาการทางเดินอาหารตามมา อาเจียนมากใน 1-2 วันแรก และท้องร่วงเป็นน้ำพุ่งหลายครั้ง หากไม่ได้รับเกลือแร่เพียงพอจะท้องอืดมาก อาจถ่ายอุจจาระมากจนก้นแดง อาการอาเจียนจะเป็นในช่วงสองวันแรกแล้วดีขึ้น แต่ท้องร่วงจะอยู่นานประมาณ 5-7 วัน

สำหรับการป้องกันโรคท้องร่วงจากไวรัสโรตา คือการรักษาความสะอาด ได้แก่ การล้างมือในการเตรียมอาหาร เตรียมนม และรักษาความสะอาดของภาชนะ ช่วยลดโรคท้องร่วง ท้องเสีย ท้องเดิน จากสาเหตุอื่นๆ และช่วยลดการติด ต่อจากเชื้อไวรัสโรตาในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อนี้ลงได้บ้าง แต่ไม่สามารถลดการติดเชื้อไวรัสโรตาส่วนใหญ่ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กมีอาการง่วงซึม ,ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลยใน 4-6 ชม. ,ตัวเย็นหรือมีไข้สูง ,หอบเหนื่อย และมีอาการชัก ต้องรีบพาเด็กไปโรงพยาบาลทันที เพราะหากปล่อยไว้เด็กอาจมีภาวะขาดน้ำรุนแรง โดยเฉพาะเด็กอ่อนอาจช็อกและเสียชีวิตได้

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี , หาหมอ.com