เปิดเทอมวันแรกนักเรียนส่วนใหญ่แต่งกายตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการกำหนด ขณะที่นักเรียนบางคนใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียน ครูได้ทำความเข้าใจและให้เข้าเรียนตามปกติ
วันที่ 1 ธ.ค.2563 บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกบริเวณด้านหน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพบว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่งแต่งชุดไปรเวทมาโรงเรียน ตามที่เครือข่ายนักเรียนมีการเชิญชวนนักเรียนทั่วประเทศเพื่อเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมในการศึกษาและการแก้ปัญหาทางการศึกษาต่างๆ โดยตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ยืนยันเป็นสิทธิที่ทำได้
ขณะที่โรงเรียนหอวัง, โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ และโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกประกาศเรื่องเเนวปฏิบัติสำหรับครูในการดูเเลนักเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 การแต่งกายของนักเรียนให้อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียน กรณีพบนักเรียนแต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบให้ครูทำความเข้าใจกับนักเรียน เเจ้งผู้ปกครอง เเละเชิญผู้ปกครองมารับทราบ เพื่อหาเเนวทางดูเเลช่วยเหลือนักเรียน โดยทางโรงเรียนจะเรียกทำความเข้าใจไม่ใช่การลงโทษ
ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่าสพฐ. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน เห็นว่าควรปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ โดยพ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ได้กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการแต่งชุดเครื่องแบบนักเรียน รวมถึงลักษณะของเครื่องแบบนักเรียน วิธีการแต่ง เงื่อนไขในการแต่ง และการยกเว้นไม่ต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียน ให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
เจตนารมณ์ของระเบียบนี้ไม่ได้ต้องการที่จะลิดรอนสิทธิเสรีภาพของนักเรียน แต่มองในเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะเมื่อใส่ชุดนักเรียนก็จะมีความแตกต่างจากบุคคลทั่วไป หากเกิดอันตรายขึ้นเครื่องแบบนักเรียนจะสามารถระบุได้ว่ามาจากโรงเรียนไหน ระดับชั้นอะไร อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างระเบียบวินัยผ่านเครื่องแต่งกาย ให้เด็กมีความรับผิดชอบแต่งกายให้ถูกระเบียบตามกฎกติกา เป็นการเริ่มต้นสร้างวินัยให้คนในชาติ
การแต่งเครื่องแบบยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำภายในโรงเรียน เพราะนักเรียนทุกคนได้แต่งเครื่องแบบที่เหมือนกัน ทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน เป็นการสร้างอัตลักษณ์และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งในแต่ละโรงเรียนมีเด็กที่มาจากครอบครัวที่แตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ฐานะ หากมีกติกากลางที่ใช้ร่วมกันก็จะเป็นการสร้างวินัยให้อยู่ร่วมกันในสังคมโรงเรียนได้อย่างสงบสุข และส่งผลถึงการใช้ชีวิตในสังคมภายนอกต่อไป
ส่วนในเรื่องของการนัดกันแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียนนั้น นายอัมพร เห็นว่าเป็นการเชิญชวนในลักษณะที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขกฎระเบียบ ซึ่งเปรียบเสมือนเชิญชวนให้นักเรียนไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา โดยส่วนตัวเชื่อว่านักเรียนมีวิจารณญาณได้เองว่าจะปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือจะปฏิบัติตามคำเชิญชวนดังกล่าว ซึ่งหากต้องการแก้ไขกฎระเบียบในส่วนนี้ ตนเห็นว่านักเรียนมีสิทธิ์ที่จะเสนอความคิดเห็นหรือความต้องการที่ต่างจากกฎระเบียบเดิมได้ แต่ในการเสนอความคิดเห็นนั้นควรเข้าสู่กระบวนการแก้ไขกฎหมายตามระเบียบปฏิบัติ จึงจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง
ดังนั้นหากต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงระเบียบ เมื่อปรับปรุงระเบียบเสร็จเรียบร้อยแล้วเสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องด้วย และคนในประเทศเห็นชอบด้วย ก็เข้าสู่กระบวนการแก้ไข เมื่อแก้ไขกฎระเบียบแล้วก็ปฏิบัติตามได้ต่อไป
ที่มา https://moe360.blog/2020/11/30/dress-up-private/