ดับเพลิงใจสลาย! ไฟไหม้ห้องแถวซึ่ง 1 ในนั้นคือบ้านพักของตัวเอง

เกิดเหตุไฟไหม้อาคารห้องแถวไม้ ชุมชนตลาดน้ำพุ ถนนท่าแฉลบ ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังฉีดน้ำสะกัดไปอย่างเต็มความสามารถนานกว่า 2 ชม. เพลิงโหมไหม้บ้านไม้เสียหายไปกว่า 10 หลัง และหนึ่งในนั้นคือบ้านของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าระงับเหตุในครั้งนี้

เฟซบุ๊ก Piya Manoromphattharasarn ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า  “ให้ภาพบรรยาย ลูกพี่เอกกลับมาเจอสภาพนี้ ผู้เป็นพ่อเข้มแข็งแค่ไหน #ถามใจคุณเอง #เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องมาดับไฟบ้านตัวเอง ลูกเดินเข้าไปในซากกองเพลิง เดินหาชุดฟุตบอลกับลูกบอล #เพื่อนเตอร์จัดให้สามชุด แค่เบื้องต้น #เข้มแข็งให้เยอะๆนะพี่เอก ลูกชายพี่เอกเรียนอยู่โรงเรียนตังเอ็งครับ”

ล่าสุดโลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นและมีการระดมช่วยเหลือนายศรัณย์ ตาหน่วย หรือ เอก อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (เจ้าหน้าที่ดับเพลิง) เทศบาลเมืองจันทบุรี ผู้ประสบภัยที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินมีค่า โดยเจ้าตัวเปิดเผยกับว่า ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพัก บริเวณสะพานขาว ซึ่งใกล้กับห้องแถวที่พัก ด้วยความที่ตนเองมีหน้าที่ขับรถดับเพลิงด้วย จึงได้ขับรถรุดเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน พอจังหวะถึงที่ต้องเลี้ยว ผ่านหน้าห้องพักของตนก็ตกใจมือไม้สั่น เมื่อเห็นรถดับเพลิงคันแรกจอดอยู่หน้าตรอกทางเข้าห้องพัก คิดว่าเป็นที่อยู่ของตนแน่นอน หลังรวบรวมสติได้จึงขับรถเข้าจอดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ท่ามกลางเสียงปลอบใจจากเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในเหตุการณ์ ด้วยความที่ต้องทำงาน จึงเร่งมือเพื่อพยายามควบคุมเพลิงให้เร็วที่สุดไม่ให้ลุกลามไปไกล หลังเพลิงสงบได้มีการพูดคุยและปลอบใจกันกับภรรยา แต่ก็ไม่วายที่จะเสียใจ เนื่องจากคิดถึงแต่เรื่องข้าวของ สิ่งของจำเป็นของลูกทั้งสองคน

สำหรับนายศรัณย์ตาหน่วย อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองจันทบุรี ที่ปฏิบัติงานมา 17 ปีเต็ม ปัจจุบัน นายศรัณย์ พักอาศัยอยู่ห้องแถว เลขที่ 22/6 ร่วมกับครอบครัว คือ น.ส.ชายาภรณ์ ดังก้อง อายุ 47 ปี ภรรยา ประกอบอาชีพค้าขายและยังเป็นจิตอาสา ลูกสาว เรียนอยู่ชั้น ม.5 ลูกชาย เรียนอยู่ชั้น ป.5 ซึ่งขณะเกิดเหตุลูกทั้งสองคนไปเรียน มีเพียงภรรยาอยู่ตามลำพัง กำลังเตรียมตัวจะออกไปธุระข้างนอก แต่พอเกิดเหตุไม่สามารถเอาสิ่งของมีค่าออกมาได้เลย

อ้างอิงข้อมูลจากไทยรัฐออนไลน์

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=778936779184372&id=100012041716965