SHARE

คัดลอกแล้ว

เครือข่ายทวงคืนผืนป่า เตรียมยกระดับเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น หากภายใน 30 วัน ยังมีมติไม่รื้อถอนบ้านป่าแหว่ง ขณะที่นายกฯ ยังไม่ฟันธง ‘รื้อ-ไม่รื้อ’  ระบุต้องให้เวลากับคนที่อยู่อาศัยด้วย

วันที่ 7 พ.ย. 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับบ้านพักข้าราชการตุลาการ ภาค 5 (ป่าแหว่ง) ว่า เรื่องบ้านพักตุลาการได้บอกไปแล้วให้กระทรวงยุติธรรมเสนอแผนงานโครงการขึ้นมา ที่จะย้ายไปอยู่ที่ จ.เชียงราย จะไปก่อสร้างกันที่นั่น ระหว่างนี้ต้องให้เวลากับคนที่อยู่อาศัยในอาคารชุดที่ป่าแหว่งที่อยู่มาก่อน โดยจะเร่งสร้างแล้วเอาคนเหล่านี้ออกไป ซึ่งจะไม่มีคนอยู่ทั้งหมดไม่อยากให้เคลื่อนไหวกันไปกันมาเสียเวลาเปล่าๆ เรื่องจะรื้อไม่รื้อจะไปดูอีกที ทำอะไรต้องมีความรอบคอบมันก็ง่าย ไม่ได้บอกว่าจะรื้อหรือไม่รื้อ อย่าไปเขียนให้มันงงไปหมด

ส่วนเรื่องการก่อสร้างที่สร้างไปแล้วถูกกฎหมายหรือไม่ ต้องไปดูว่าอนุมัติกันมาว่าอย่างไรตั้งแต่เมื่อไหร่ สร้างกันมาได้มันถูกหรือมันผิด ถ้าอนุมัติหมดทุกอันในรัฐบาลของรัฐบาลก่อนๆ มาถ้าคิดว่ามันถูกมันก็ถูก แล้วตนถึงได้ตามแก้นี่ไง บางครั้งต้องแก้ไขฟังเสียงประชาชนดูบ้าง

“วันนี้รัฐบาลพยายามดูแลทุกอย่าง ทั้งคำร้องเรียนหรือความคิดเห็นที่เข้ามาทั้งในโซเชียลมีเดียหรือตามสื่อต่างๆ ก็รับมาพิจารณาทั้งหมดไม่เคยลืมเรื่องอะไร เพียงแต่ว่าต้องให้เวลาส่วนราชการในการแก้ปัญหามันไม่ง่ายนักหรอก การแก้ปัญหาที่มันทับซ้อนหมักหมมมานาน บางทีมันก็แก้ไขยากลำบาก มันต้องทยอยดำเนินการทีละเรื่องทีละเปาะไป ก็คาดหวังอย่างยิ่งรัฐบาลต่อไปใครจะเป็นก็แล้วแต่ คงต้องให้มันได้แล้วอย่าให้มีปัญหาขึ้นมาอีกก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นมันก็ทับซ้อนกับสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้เข้าไปอีก หมักหมมไปเรื่อยๆเราก็ติดอุปสรรคต่างๆทั้งปวง ประเทศไทยเราก็ใช้ศักยภาพได้ไม่เต็มที่”

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักตุลาการ กล่าวว่า ได้มอบให้ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯไปดูมิติของการใช้ที่ดินของรัฐในอนาคตอย่างเหมาะสม และเป็นที่ยอมรับของสังคม เช่น ความเป็นไปได้ในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐที่ต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขนบธรรมเนียมประเพณี ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และจิตวิญญาณของประชาชน เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก เพราะเครือข่ายภาคประชาชนให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ส่วนเรื่องการฟื้นฟูพื้นที่ป่าแหว่งจะมีแนวทางการเข้ามามีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

ธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

เครือข่ายทวงคืนผืนป่า ยื่นคำขาดอีก 30 วัน ยังมีมติไม่รื้อถอน จะยกระดับการเคลื่อนไหวเข้มข้นขึ้น

ขณะที่นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยผ่านเพจอีจันว่า คณะกรรมการการและรัฐบาลที่จะต้องตัดสินใจควรเคารพสิทธิชุมชนและมติที่เป็นความต้องการของคนเชียงใหม่ หากไปฟังเสียงคนนอกและไม่ยอมรื้อ จะกลายเป็นบรรทัดฐานทั้งทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ความเสมอภาคที่ไม่ถูกต้อง และ ในอนาคตก็อาจจะเกิดหมู่บ้านป่าแหว่งในพื้นที่ป่าอื่น ๆ อีกหลายแห่ง

นายธีระศักดิ์ เชื่อว่า สาเหตุที่ยังมีการยื้อเวลาและไม่มีคำสั่งรื้อถอน เพราะฝ่ายราชการกลัวการสั่งรื้อ กลัวจะผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีย้อนหลัง ทั้งที่เครือข่ายเสนอช่องทางทางกฎหมายที่สามารถรื้อได้ไปหลายข้อ แต่ไม่มีการตอบรับ และให้ข้อเสนอว่า

“หากอีก 30 วันหลังจากนี้ คณะกรรมการยังมีมติไม่รื้อถอน ทางเครือข่ายฯจะไม่หยุดและจะสู้จนกว่าจะได้ผืนป่าที่สมบูรณ์กลับคืนมา พร้อมจะยกระดับการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 11 พ.ย. นี้ ที่หอประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จะมีกิจกรรม “ปั่นทวงป่า” มีขบวนจักรยานเคลื่อนไปที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่า คนเชียงใหม่ยังติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องและจะไม่ยอมให้มีบ้านพักส่วนตัวของใครในพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์”

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า