ปีหน้าสิงห์อมควันอ่วม! บุหรี่จ่อขึ้นราคาอีก 50% ขณะที่เอกชนพร้อมลงทุนร่วมโรงงานยาสูบ 1 แสนล้าน

สิงห์อมควันเตรียมจ่ายเงินเพิ่มปีหน้า หลังบุหรี่ปรับราคาตามภาษีใหม่ ขณะที่บริษัทนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศสนใจร่วมลงทุนโรงงานยาสูบ 1 แสนล้านบาท

วันที่ 26 พ.ย.2561 บริษัทผู้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ พร้อมร่วมลงทุนกับโรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท หากกระทรวงการคลังเปิดทางเจรจาให้ตั้งบริษัทลูก พร้อมเสนอปรับเพดานราคาเก็บภาษีอัตราใหม่ จากซองละ 60 บาท เป็น 75 บาท หลังกฎหมายกำหนดปรับขึ้นภาษีบุหรี่เท่ากันทุกราคา ที่ร้อยละ 40 ปีหน้า บุหรี่ที่ราคาจำหน่ายต่ำกว่าซองละ 60 บาท อาจแพงขึ้นอีกร้อยละ 50 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีหน้า ตามเงื่อนไขพระราชบัญญัติสรรพสามิตฉบับใหม่ หลังกฎหมายกำหนดให้บุหรี่ทุกราคา จะถูกเก็บภาษีตามมูลค่าที่ร้อยละ 40 และตามปริมาณ มวนละ 1 บาท 20 สตางค์ จากปัจจุบัน เก็บอัตราดังกล่าวเฉพาะบุหรี่ที่แพงกว่าซองละ 60 บาท หรือบุหรี่ราคาซองละ 60 บาท อาจปรับเพิ่มขึ้นเป็นซองละ 90 บาท ในปีหน้า

ขณะที่ผู้บริหารกลุ่มบริษัท เจที อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ผู้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศรายใหญ่ กล่าวว่า โครงสร้างภาษีใหม่ ไม่กระทบต่อแผนการขยายกิจการ ตามนโยบายของบริษัทแม่ ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีเงินลงทุนกว่าแห่งละ 4-5 หมื่นล้านบาท และหากกระทรวงการคลัง เปิดทางเจรจาตั้งบริษัทลูกแห่งใหม่ ก็พร้อมลงทุนไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมเสนอรัฐบาล ปรับเพดานราคาบุหรี่ ที่จะบังคับใช้ภาษีอัตราใหม่ จากซองละ 60 บาท เป็น 75 บาท

ขณะที่นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า สถานะการเงินของการยาสูบแห่งประเทศไทย ล่าสุด ยังไม่วิกฤตจนต้องเข้าแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถปรับตัวได้ แม้อาจได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่

ด้านนายนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า แม้มีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตครั้งใหญ่ เมื่อเดือนกันยายน 2560 แต่การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2561 กลับต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 1 หมื่นล้านบาท และพบว่า เกิดจากปัญหาสินค้าบางประเภท รวมทั้ง บุหรี่ สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง

กรมฯ จึงตั้งกองงานขึ้น เพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบราคาขายปลีก พร้อมเร่งศึกษาการเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับหลายประเทศ ก่อนตั้งเป้าหมายจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2562 ไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2561 ที่ 5 จำนวน 1.8 แสนหมื่นล้านบาท