SHARE

คัดลอกแล้ว

แกนนำประชาชนปลดแอกเดินทางไป สน.สำราญราษฎร์ เรียกร้องให้ ตร.นำหมายจับออกมาจับกุม หลังยุติการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

วันที่ 17 ส.ค.2563 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาหลังสิ้นสุดกิจกรรมชุมนุมขีดเส้นตายไล่เผด็จการ แกนนำประชาชนปลดแอกพากันเดินทางไปที่ สถานีตำรวจสำราญราษฎร์ หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ โดยยืนยันว่าการมาที่ สน.สำราญราษฎร์ ครั้งนี้ไม่ได้มอบตัวเป็นเพียงการเเสดงตัวตามหมาย โดยทางแกนนำเรียกร้องให้ตำรวจนำหมายจับพร้อมรูปถ่ายใบหน้าเเต่ละคนมาเเสดง แต่ตำรวจเพียงอ่านรายชื่อ ทำให้เเกนนำไม่พอใจ และเจรจาประมาณ 10 นาที ไม่เป็นผล กระทั่งนายนายอานนท์ นำภา จึงพาเเกนนำทั้งหมดออกมา ขณะที่เเกนนำบางคนตะโกนบอกว่าวันนี้อุตส่าห์มาถึงที่นี่เเล้ว ถ้าไม่จับ ก็อย่าตามไปจับที่มหาวิทยาลัย เพราะพวกตนจะเอาเวลาไปเรียนหนังสือ จากนั้นเเกนนำทั้งหมดจะเดินเท้ากลับไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

สำหรับกิจกรรมชุมนุมขีดเส้นตายไล่ เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 15.00 น. มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาร่วมกิจกรรมจำนวนมา บรรดาแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยบนเวที พร้อมกับมีการแสดงดนตรี โดยนายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ถูกแจ้งข้อหาจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. และได้ประกันตัวออกมา ได้ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า จากการต่อสู้หลายคนถูกตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม มีคนถูกจับ โดยอ้างว่ามีอำนาจมืดกดดันให้มีการดำเนินคดี

นายอานนท์ กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญใหม่โดยขอให้ปรบมือให้กับพรรคการเมืองที่เตรียมจะเสนอเรื่องนี้ แต่ขอให้อย่าวางใจเพราะจะเป็นการแก้ที่ลดอำนาจเผด็จการ ประชาชนจึงต้องติดตามและกดดันจนถึงที่สุด อย่าไว้วางใจ ส.ว.ที่ออกความเห็น การแก้รัฐธรรมนูญต้องมาจาก สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่ประชาชนเลือกเข้ามา โดยต้องมีตัวแทนของทุกกลุ่ม รวมทั้ง นักเรียน นิสิต นักศึกษาด้วย พร้อมยืนยันว่า นอกเหนือจากข้อเสนอ 3 ข้อจะยังคงยืนยันความฝันเรื่องการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย

ด้านน.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนท.) หลานสาว เตียง ศิริขันธ์ ขึ้นมาอ่านคำกล่าวของนายเตียงที่ว่า “ข้าพเจ้าเป็นราษฎรไทย ทั้งข้าพเจ้าต้องการให้ทุกๆ คนบนพื้นอันเป็นสยามประเทศนี้เป็นราษฎรเสมอหน้ากันหมด ปราศจากความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ความเป็นราษฎรจึงเป็นอุดมคติที่ข้าพเจ้าบูชา”

ขณะที่นายเทพ เรืองประไพกิจเสรี แกนนำกลุ่มประชานปลดแอก ขึ้นกล่าวเป็นคนสุดท้ายว่า นี่คือการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดบนถนนราชดำเนินนับตั้งแต่ที่ คสช.ยึดอำนาจ การมายืนอยู่ตรงนี้มาชุมนุมตากแดดตากฝนไม่มีใครชอบ เราควรจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็น แต่ที่ออกมาเพราะรู้ว่าประเทศนี้ผิดปกติอย่างไร ถ้าวันหนึ่งตนมีลูกตนต้องตอบลูกและหลานให้ได้ว่าตนได้ออกมาสู้หรือไม่หรือเพียงนอนอยู่บ้าน เราจึงต้องออกมายื่นคำขาดไปยังผู้มีอำนาจ 3 ข้อ คือ

1. ทุกๆ ฝ่าย หยุดคุกคามประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ทั้งการคุกคามทางกายภาพ และจิตวิทยา รวมทั้งการดำเนินคดี 2.รัฐสภาต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่อย่างแท้จริง 3. ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ภายใต้กฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตย

นี่เป็นทางออกของปัญหาการเมืองไทยที่เรื้อรังโดยไม่ต้องนองเลือด คณะประชาชนชนปลดแอกได้เสนอโร้ดแม็ป ดังนี้
1. ยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 269-272 เพื่อเอา 250 ส.ว. ซึ่งเป็นกลไกสืบทอดอำนาจ ออกไปจากภายในเดือน ก.ย.
2. แก้ไข มาตรา 256 เลือกตั้ง ส.ส.ร. ร่าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยขอเรียกร้องไปยังสมาชิกสภา เปิดทางให้ประชาชนได้ร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยเจตจำนงค์อย่าล็อกสเป็ก ต้องพูดคุยกันได้ทุกหมวดทุกมาตรา
3.รัฐสภายุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน จัดตั้งรัฐบาลที่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน

นายทัตเทพ กล่าวว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้้น ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายอย่างไร มี 2 อย่าง ที่เราไม่ยอมรับ คือ จะต้องไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และไม่เอาการทำรัฐประหาร ซึ่งหากมีเกิดขึ้นพวกเราจะเอาออกมาต่อต้าน และยังมีเรื่องความฝันคือ การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ดำรงอยู่เป็นมิ่งขวัญตลอดไป

ถ้าไม่ได้รับการตอบรับจะมีการชุมนุมที่นี่อีก จากนั้นมีการตะโกนว่า ให้มันจบที่รุ่นเรา เราจะไม่หยุดจนกว่าอำนาจมืดจะหมดไป และเผด็จการจงพินาท ประชาธิปไตยจงเจริญ

ส่วนแกนนำที่จัดชุมนุม 18 ก.ค. และมีข่าวถูกออกหมายเรียกได้ขึ้นมารวมตัวบนเวที และเชิญตำรวจให้มาชี้แจงที่หน้าเวที โดยหากมีหมายจับให้นำมาด้วย แต่ไม่มีการตอบรับ คณะผู้จัดงานจึงได้ประกาศแถลงการณ์อีกครั้ง และชู 3 นิ้วขับร้องบทเพลง Do you hear the people sing และประกาศว่าภายในเดือน ก.ย. ถ้ารัฐบาล รัฐสภาไม่ตอบสนองจะกลับมาเจอกันใหม่ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 22.45 น.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า