ไทยติดโควิดเพิ่ม 2,230 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ 3,390 ราย

ศบค.รายงานวันนี้ผู้ป่วยโควิดรักษาหายเพิ่ม 3,390 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มมี 2,230 ราย ชี้แคมป์คนงานติดเชื้อยังทำงานต่อได้ แต่ต้องคุมเข้ม Bubble & seal ระหว่างที่พักและที่ทำงาน ห้ามออกนอกพื้นที่ เพื่อใหเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้

วันที่ 1 มิ.ย. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานว่า วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 2,230 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ 77 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 162,022 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิต 38 ราย สะสม 1,069 ราย ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายได้กลับบ้านมีมากถึง 3,390 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึง สถานการณ์โควิด-19 ในกรุงเทพฯ ว่า ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะแคมป์คนงานก่อสร้าง ชุมชนแออัด ตลาด นพ.ทวีศิลป์ มองว่าการปิดสถานที่ ปิดตลาดอาจจะให้มีผลกระทบมากขึ้น เนื่องจากแรงงานจะเดินทางกระจายออกไปนอกพื้นที่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการ Bubble & seal ระหว่างที่พักและที่ทำงาน คือ ควบคุมเชื้อไม่ให้หลุดออกไปสู่ภายนอกได้ และจะต้องไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้าย เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

กลุ่มแรงงานส่วนใหญ่เมื่อป่วยแล้วอาการไม่รุ่นแรง สามารถทำงานต่อได้ หากมีการทำ Bubble & seal ป้องกันไว้ และคอยส่งเครื่องอุปโภคบริโภคที่จะเป็นไปให้ จะไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ ตอนนี้เราทราบดีว่าเฉพาะเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องทำให้ขับเคลื่อนได้ จึงอยากสื่อสารไปยังประชาชนที่อยู่รอบๆ แคมป์โรงงานที่อาจได้ยินเสียงเครื่องจักรยังทำงานอยู่ ซึ่งเราเรียนรู้แล้วว่าการปิดไม่ได้เป็นคำตอบ แต่การ Bubble & seal  ล้อมกรอบพื้นที่ เพื่อให้สามารถทำงานได้เป็นมาตรการหนึ่งที่เคยใช้มาแล้วและได้ผล

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หารือกับจังหวัดสระแก้วที่รายงานว่า มีผู้ที่ขอเดินทางเข้าประเทศผ่านทางชายแดนจำนวนมาก และในจำนวนนั้นมีผู้ติดเชื้อหลายคน ซึ่งโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ทั้งของภาครัฐ เอกชน และโรงพยาบาลสนามยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้ แต่ในส่วนของสถานที่กักสำหรับผู้ที่ไม่ติดเชื้อเริ่มจะไม่เพียงพอ เพราะจำนวนผู้ขอเดินทางกลับไทยมีมาก จึงจำเป็นต้องขอใช้สถานที่ในจังหวัดใกล้เคียงทำเป็นสถานที่กักกันด้วย