น้ำท่วมอุบลเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำแม่น้ำโขงอยู่ต่ำกว่าหน้าเขื่อนปากมูล 2.41 เมตร

กรมชลประทาน เตรียมระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 100 เครื่อง เร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำเมืองอุบลราชธานี พร้อมเข้าฟื้นฟูทันทีหลังน้ำลด

วันที่ 17 ก.ย.2562 สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานีใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนจากระดับน้ำที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน และพื้นที่การเกษตรหลายแห่ง รัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก โดยนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยในพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูล ได้สั่งการให้กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุด 16 กันยายน 2562 ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M.7(สะพานเสรีประชาธิปไตย)ลดลงต่อเนื่อง แต่ยังมีน้ำล้นตลิ่งทางด้านของฝั่งอำเภอวารินชำราบ ประมาณ 3.76 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 4,950 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ลบ.ม./วินาที)

อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้โครงการชลประทานอุบลราชธานี ลงพื้นที่ไปสำรวจจุดที่จะทำการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ หากระดับน้ำในแม่น้ำมูลลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว จะได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่ได้จัดเตรียมไว้แล้วกว่า 100 เครื่อง สูบเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังให้แห้งโดยเร็วที่สุด

ส่วนเครื่องผลักดันน้ำมีแผนที่จะติดตั้งในแม่น้ำมูลตอนล่างทั้งสิ้น 260 เครื่อง ปัจจุบันติดตั้งพร้อมเดินเครื่องแล้ว 195 เครื่อง แบ่งเป็นติดตั้งที่บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร 60 เครื่อง ติดตั้งเสร็จแล้ว ส่วนอีก 200 เครื่อง ติดตั้งที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อำเภอโขงเจียม ขณะนี้ติดตั้งพร้อมเดินเครื่องแล้ว 135 เครื่อง ที่เหลืออีก 65 เครื่อง จะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 กันยายนนี้

ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำโขง อยู่ต่ำกว่าหน้าเขื่อนปากมูลถึง 2.41 เมตร หากเดินเครื่องผลักดันน้ำได้ครบทั้ง 260 เครื่อง จะช่วยผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้มากและเร็วยิ่งขึ้น หากไม่มีฝนตกหนักลงมาในพื้นที่ตอนบน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและพื้นที่ใกล้เคียงจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติภายในสิ้นเดือนนี้

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดของจังหวัดอุบลราชธานี ยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 18 อำเภอ ได้แก่ อ.ดอนมดแดง อ.ตระการพืชผล อ.เมือง อ.ม่วงสามสิบ อ.เขื่องใน อ.พิบูลมังสาหาร อ.น้ำขุ่น อ.นาเยีย อ.ทุ่งศรีอุดม อ.เดชอุดม อ.นาจะหลวย อ.วารินชำราบ อ.ตาลสุม อ.เหล่าเสือโก๊ก อ.น้ำยืน อ.สว่างวีระวงศ์ อ.สิรินธร และอ.สำโรง รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 193,088 ไร่

โครงการชลประทานอุบลราชธานี จะติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำรวมจำนวน 260 เครื่อง ที่สะพานข้ามน้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร จำนวน 60 เครื่อง (ปัจจุบันติดตั้งครบแล้ว) และที่สะพานโขงเจียม .โขงเจียม จำนวน 200 เครื่อง (ปัจจุบันติดตั้งแล้ว 135 เครื่อง และจะทยอยติดตั้งอีก 65 เครื่อง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 ก.ย. 2562) ติดตั้งเครื่องสูบน้ำรวมจำนวน 7 เครื่อง (อ.วารินชำราบ 1 เครื่อง อ.เมือง 2 เครื่อง บ้านก่อก้อ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) SMART WATER OPERATION CENTER อ.เขื่องใน 1 เครื่อง และสะพานเสรีประชาธิปไตย 3 เครื่อง) และ ติดตั้งกาลักน้ำจำนวน 6 ชุด ที่อ่างเก็บน้ำหนองช้างใหญ่ แม่น้ำมูล (เวลา 17.00 น.)สถานีM.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง +3.70 ม.แนวโน้มลดลง

กรมชลประทาน จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) ไว้สำหรับใช้เป็นศูนย์บัญชาการและบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของชาวอุบลราชธานี รวมทั้งยังได้ร่วมกันปล่อยคาราวานเครื่องจักรกลของกรมชลประทาน อาทิ เครื่องสูบน้ำเครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น