เส้นทางผักผลไม้จีนทะลักเข้าไทยพบนักลงทุนเช่าพื้นที่ตลาดไทเก็บสินค้ารอขาย

สัปดาห์ก่อนมีข้อมูลน่าจากใจคือ ผัก – ผลไม้ที่ขายกันตามท้องตลาดกว่าร้อยละ 40 ที่มีการสุ่มตรวจจากไทยเเพนพบสารเคมีตกค้าง ขณะที่ผักผลไม้ส่วนใหญ่นำเขาจากประเทศจีนที่เข้ามามาก เพราะเส้นทางที่ขนกันได้สะดวกสบายที่สำคัญอัตราภาษีเป็น 0 เเต่การเข้ามามากๆ ราคาถูกกว่าไทยถือเป็นจุดเสี่ยงสำคัญของเกษตรกรที่อาจได้รับผลกระทบจนล้มหายตายจากกันไป

ผักกาดขาว กวางตุ้ง บรอกโคลี และผลไม้ต่างๆ ล้วนถูกนำเข้าจากจีนผ่านเส้นทางด่านโมฮาน จีนตอนใต้ มาด่านเชียงของ ที่เชียงราย เดินทาง 3 ชั่วโมง มาทุกวันนับร้อยตู้ ขณะที่กรมศุลกากร บอกว่า ผักและผลไม้เหล่านี้จะถูกนำไปผ่านพิธีการนำเข้าสินค้า บริเวณด่านศุลกากรเชียงของ ทั้งการตรวจเอ็กซเรย์สินค้าว่าเป็นไปตามเอกสารหรือไม่ พร้อมสุ่มตรวจหาสารตกค้างโดยกรมวิชาการก่อนปล่อยตู้สินค้า

ข้อมูลการนำเข้าผักผลไม้จากจีนปี 2561 ผ่านด่านศุลกากรเชียงของมีปริมาณกว่า 1 ล้านตัน หรือ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนปี 2562 มีการนำเข้าแล้วปริมาณกว่า 170,000 ตัน มูลค่ากว่า 3 พัน 200 ล้านบาท

นายวสันต์ สุวรรณทา พนักงานบริษัทนำเข้าผักและผลไม้จากประเทศจีนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า การนำเข้าสินค้าจากจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งเมื่อผ่านจากด่านเชียงของไปแล้วจะไปลงสินค้ายังตลาดในพื้นที่ภาคกลางจะเห็นรถตู้คอนเทนเนอร์ของผู้ค้าชาวจีน จอดรอลงสินค้าจำหน่ายผลไม้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดไท ตลาดสี่มุมเมืองและตลาดไอยรา ซึ่งในตลาดไทมีชาวจีนมาลงทุนนำเข้าผักผลไม้จากจีน 40-50 ราย โดยมีเช่าพื้นที่ตลาดไท และลงทำทำห้องเย็นไว้ภายนอกเพื่อเก็บสินค้าที่รอจำหน่าย

ด้านนายชัยประสิทธิ์กุล พ่อค้าผักตลาดไท จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ร้านขายผักเมืองหนาวในตลาดไทพ่อค้าส่วนใหญ่นำเข้าผักจากจีนไม่ต่างกัน โดยผักที่ขายอยู่กว่าร้อยละ 50 เป็นผักจากประเทศจีน ด้วยราคาที่ถูกกว่า บางอย่างเกือบครึ่งและขนาดที่ใหญ่สวยงาม เก็บได้นานทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบ

ตลอดเส้นทางการลำเลียงผักและผลไม้จากชายแดนจีน ผ่านลาว มายังด่านเชียงของ ใช้เวลาเพียง 2 วัน จากน้้นเข้าสู่ตลาดค้าส่งหลัก ก่อนที่พ่อค้าคนกลาง รถเร่หรือรถพุ่มพวงจะมารับและกระจายสู่ผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งใช้เวลาแทบไม่แตกต่างไปจากเส้นทางของผักผลไม้จากแหล่งผลิตในประเทศ