Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อธิบดีกรมอนามัยแนะประชาชนรับประทานอาหารที่มีวิตามินสูงและมีแร่ธาตุที่ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ย้ำกินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือ ป้องกันโรคโควิด 19

วันที่ 30 เม.ย.2563 ทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แถลงความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ คาดว่าเราจะยังต้องอยู่กับสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด 19 ไปจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรค ประชาชนจึงต้องปรับการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ (New Normal) นอกจากการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า กินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และสิ่งสำคัญคือการดูแลตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารถูกหลักโภชนาการทุกกลุ่มวัย แนะนำให้มีความหลากหลาย มีผักผลไม้ทุกมื้อ ในเด็กให้กินนมจืดวันละ 1-2 แก้ว และเด็กทารกกินนมแม่

สำหรับการเลือกรับประทานอาหารขอให้เลือกอาหารที่มีวิตามิน เกลือแร่สูง เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ได้แก่ วิตามินซี ซึ่งร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง ช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาว ขจัดเชื้อโรค ต้านภูมิแพ้ ลดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ลดการจาม น้ำมูกไหล มีมากในผักผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ เงาะ พริกหวานแดง พริกหวานเขียว ผักคะน้า บรอกโคลี มะระขี้นก และ วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันกรดไขมันไม่อิ่มตัวและส่วนประกอบเยื่อหุ้มเซลล์ของอวัยวะในร่างกายถูกทำลาย มีมากน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าว ถั่วลิสง ไข่ไก่ รวมทั้งวิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พบใน เห็ดหอม ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ปลาแซลมอน ปลานิล ไข่แดง และในแสงแดด

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า แร่ธาตุที่สำคัญได้แก่ ซีลีเนียม ช่วยอนุมูลอิสระที่ทำอันตรายต่อเซลล์หรือเปลี่ยนแปลงเซลล์ปกติให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง และเสริมการทำงานของวิตามินซี และวิตามินอี ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ พบในปลาทูสด ไข่ ปลาจาระเม็ดสด เนื้อปูต้มสุก หากขาดซีลีเนียมจะติดเชื้อได้ง่าย และแร่ธาตุที่จำเป็นอีกชนิดหนึ่งคือ สังกะสี ช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคและการเจริญเติบโต พบมากในเนื้อสัตว์สันใน และเครื่องในสัตว์ หอยนางรม ไข่ นม ปลา

สำหรับเมนูแนะนำชูสุขภาพช่วยเสริมภูมิต้านทานที่มีใบกะเพราและพริกขี้หนูเป็นส่วนประกอบ เช่น ผัดกะเพราปลา ไข่เจียวกะเพรา ต้มยำปลาทู สปาเกตตีขี้เมาทะเล เป็นต้น โดยกะเพรามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดปวด ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงเกิดมะเร็ง ส่วนพริก มีวิตามินซีสูง กระตุ้นความอยากอาหาร ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยการเผาผลาญพลังงาน และบำรุงสายตา

รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 30 เมษายน 2563 วันนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ถึงร้อยละ 90.96 ของผู้ป่วยทั้งหมด (กลับบ้าน 22 ราย รวมกลับบ้านสะสม 2,687 ราย) ทำให้ขณะนี้เหลือผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 213 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 7.21 ของผู้ป่วยทั้งหมด

ขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลง รายงานวันนี้ 7 ราย (ลำดับที่ 2,948 – 2,954) พบจากการลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 4 ราย (ภูเก็ต 3 ราย, กระบี่ 1 ราย) และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซียเข้า State Quarantine ที่กรุงเทพมหานคร 2 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ส่วนใหญ่มาจากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active Case Finding) ในชุมชนหรือพื้นที่ที่เคยพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนในจังหวัดภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกทำให้พบผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยได้อย่างรวดเร็ว นำเข้าระบบการรักษาได้อย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นการลงพื้นที่ค้นหาอย่างมีเป้าหมายมากกว่าการตรวจแบบปูพรม ซึ่งจะมีความคุ้มค่า ป้องกันการระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็วและลดโอกาสการแพร่เชื้อเป็นวงกว้างในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

จากการเฝ้าระวังและควบคุมโรคที่ผ่านมา ยังคงแนะนำให้ประชาชนลดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น ไม่ไปในที่ชุมชนแออัดที่มีคนรวมกันจำนวนมาก งดสังสรรค์ ดังนั้นการอยู่บ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ ควรออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน ล้างมือด้วยน้ำและสบู่แอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ เป็นต้น

สรุปภาพรวมวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย กลับบ้านวันนี้ 22 ราย สะสม 2,687 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 213 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 54 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 2,954 ราย

สำหรับภาพรวมผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และนนทบุรี รองลงมาภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อัตราส่วนของผู้ป่วย หญิงต่อชาย คือ 1 : 1.16 พบมากในช่วงอายุ 20-29 ปี ผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดคือ 1 เดือน มากที่สุดคือ 97 ปี

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า