SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในเดือนวันแม่แห่งชาติและสัปดาห์นมแม่โลก ตั้งเป้าปี 2568 เด็กไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน พร้อม ภายใต้คำขวัญ “นมแม่คือรากฐานแห่งชีวิต” 

วันที่ 12 ส.ค. 2561 กระทรวงสาธารณสุขและเครือข่ายได้ร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และสัปดาห์นมแม่โลก หรือ World Breastfeeding Week ที่นานาประเทศได้ร่วมกันกำหนดไว้ในวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี ภายใต้แนวคิด นมแม่คือรากฐานแห่งชีวิต Breastfeeding : Foundation of Life โดยมีนโยบายที่จะส่งเสริม-สนับสนุนและปกป้องให้เด็กทุกคนได้กินนมแม่อย่างเต็มที่ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ กินนมแม่ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้นหรือตามสูตร 1 – 6 – 2

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการเกิดลดลง เพราะไม่สามารถตรึงการเกิดไม่ให้ลดลงได้ แต่เราสามารถทำให้ทุกการเกิดมีคุณภาพได้ โดยการเตรียมความพร้อมจากแม่ ปัจจุบันเรามีนโยบายส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ จึงจำเป็นที่ต้องเน้นตั้งแต่เริ่มก่อนตั้งครรภ์ คือ การส่งเสริมให้แม่เข้าถึงบริการต้องได้รับสารอาหารเพียงพอจากแม่สู่ลูก หลังคลอด 6 เดือนต้องให้เด็กได้รับนมแม่อย่างเดียว

สำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ในปี 2559 สำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พบว่า มีทารกไทยเพียงร้อยละ 40 ได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และเพียงร้อยละ 23 ที่ได้กินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น มีทารกเพียงร้อยละ 13 ที่ได้กินนมแม่ต่อเนื่องถึง 2 ปี โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าต้องเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2568 โดยการทำเรื่องปกป้อง สนับสนุน ส่งเสริม ซึ่งขณะนี้กฎหมายลูก 10 ฉบับออกมาเรียบร้อยแล้ว ภายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ จะทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการอีกครั้ง และในเดือนกันยายนนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เรื่องการจัดสภาพแวดล้อม เอื้ออำนวยให้แม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น การจัดมุมนมแม่ในสถานประกอบการ

“การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะขับเคลื่อนทั้งงานปกป้อง สนับสนุน ส่งเสริม ได้แก่  การปกป้อง ส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การปกป้อง คือการบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560 หรือ พ.ร.บ.นมผง เพื่อปกป้องสิทธิและสุขภาพของเด็กทุกคนไม่ให้เสียโอกาสในการกินนมแม่ ผ่านการควบคุมวิธีการโฆษณาและส่งเสริมการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก”

การส่งเสริม คือ การจัดระบบบริการสุขภาพที่สร้างความรอบรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่หญิงตั้งครรภ์และครอบครัว ตั้งแต่ฝากครรภ์ ต่อเนื่องถึงการจัดบริการห้องคลอดคุณภาพ และการดูแลหลังคลอดที่ช่วยแม่ให้เริ่มให้นมลูกได้เร็วตามต้องการ เชื่อมโยงถึงชุมชนที่มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเกือบ 1 ล้านคน คอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดที่บ้านส่วน

การสนับสนุน คือ การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยช่วยเหลือให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ โดยในระบบบริการสุขภาพมีการจัดตั้งคลินิกนมแม่เพื่อช่วยแก้ปัญหาและให้คำปรึกษาอย่างครบวงจรในสถานประกอบกิจการสำหรับแม่ทำงาน มีการผลักดันการจัดตั้งมุมนมแม่ โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะส่งเสริมให้ลูกจ้างและนายจ้างเห็นความสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้เด็กมีภูมิต้านทานโรค สุขภาพแข็งแรง พัฒนาการสมวัย ประหยัดค่าใช้จ่ายของลูกจ้างในการซื้อนมผง ที่มีคุณค่าทางอาหารน้อย และมีการลงนามร่วมกับ 7 องค์กรที่ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ภาภจาก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

ตั้งแต่ปี 2559-กรกฎาคม 2561 มีสถานประกอบกิจการจัดตั้งมุมนมแม่ จำนวน 1,745 แห่ง, ลูกจ้างใช้บริการมุมนมแม่ จำนวน 11,159 คน, ลูกจ้างเกี่ยวข้อง 999,882 คน ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 334,770,000 บาท ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการลดหย่อนภาษีมาช่วยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อดึงดูดนายจ้างเข้าร่วมโครงการมากขึ้น โดยรูปแบบนายจ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนทดแทน กำหนดไว้ว่าจะได้รับลดหย่อนเมื่อลูกจ้างปลอดภัย มีสุขภาพดี มีความสุขในการทำงาน

สำหรับ 6 เดือนแรก เด็กกินนมแม่ เป็นวิธีที่ทั้งฉลาดและประหยัดเพื่อให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง กินนมแม่มีผลอย่างมากกับการอยู่รอดปลอดภัย สุขภาพ ภาวะทางโภชนาการ และพัฒนาการของเด็ก เด็กทารกที่ได้กินนมแม่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ เด็กที่ไม่ได้รับนมแม่เมื่อโตขึ้นจะมีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน ภาวะไขมันในเส้นเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หอบหืดในเด็ก และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และที่สำคัญกว่านั้น เด็กที่ได้กินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกมีพัฒนาการด้านสติปัญญาและมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีกว่า

อ้างอิงข้อมูลจาก กรมอนามัย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า