พาณิชย์ดันลำไยส่งขายออนไลน์ ยอดพุ่ง 2,300 ล้านบาท

กระแสตอบรับดีเกินคาด พาณิชย์ดันผลผลิตลำไยสู่ตลาดออนไลน์มูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท หลังจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ ลุ้นเซี่ยงไฮ้สั่งเพิ่มอีกหลายหมื่นตัน

วันที่ 21 ก.ค.2563 เมื่อวันที่ 16-17 ก.ค.ที่ผ่านมากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์โดยนัดหมายกับผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยให้ได้พบปะกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเร่งผลักดันผลผลิตลำไยที่กำลังออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรสามารถขายลำไยทางช่องทางออนไลย์ถึงผู้รับซื้อโดยตรงได้มูลค่ากว่า  2,300 ล้านบาท

ล่าสุดจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเมินผลพยากรณ์ข้อมูลลำไยปี 2563 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มิ.ย.2563) คาดว่า จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดรวม 635,394 ตัน เพิ่มขึ้น 2.42% โดยผลผลิตจะออกมาสุดในช่วงเดือน ส.ค.2563 จากมาตรการที่มีอยู่ ทั้งการผลักดันส่งออก การเร่งกระจายผลผลิตในประเทศจะเพียงพอที่จะรับมือผลผลิตลำไยในปีนี้หรือไม่ ต้องติดตาม แต่เชื่อได้อย่างคือทั้งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมการค้าภายในที่รับผิดชอบในการระบายผลผลิตทั้งส่งออกต่างประเทศ และภายในประเทศมีมาตรการรับมือไว้แล้วจะได้ผลหรือไม่ ไว้รอดูผลงานกัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศใช้วิกฤตเป็นโอกาส ซึ่งก็น่าจะเบาใจลงได้เปราะหนึ่งสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ผลผลิตปีนี้กำลังจะออกสู่ตลาด โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยเดินหน้าหาตลาดรองรับผลผลิตอย่างเต็มที่ โดยปรับการจำหน่ายรูปแบบเดิมที่ต้องไปเจรจา ไปขาย ไปพบปะกับลูกค้า เป็นการใช้ช่องทางออนไลน์ เข้ามาช่วยเจรจาค้าขาย และปรับบทบาททูตพาณิชย์ ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ เป็นเซลส์แมนของประเทศ ทำหน้าที่ไปติดต่อ ไปหาผู้ซื้อ ผู้นำเข้า

เมื่อเป้าหมายทุกอย่างชัดเจน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ โดยนัดหมายกับผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยให้มาพบปะกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ที่ทูตพาณิชย์ได้ไปติดต่อไว้ผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อวันที่ 16-17 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา มีคำสั่งซื้อลำไยสดปริมาณ 32,397 ตัน มูลค่า 1,619.85 ล้านบาท และลำไยอบแห้งอีก 820 ตู้ มูลค่า 765.66 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2,385.51 ล้านบาท นอกจากนี้ยังคาดการว่าจะมีผู้นำเข้าจากเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นตลาดลำไยใหญ่ที่สุดของจีนจะสั่งซื้อลำไยอีกหลายหมื่นตัน ตอนนี้กำลังรอผลอยู่

นายจุรินทร์สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่เพาะปลูกลำไยในฐานะที่เป็นเซลส์แมนจังหวัด ทำการสำรวจปริมาณผลผลิต ติดตามสถานการณ์ราคา และให้ช่วยหาตลาดล่วงหน้า ทั้งการประสานผู้ซื้อ โรงงานแปรรูป และกระจายออกนอกพื้นที่เป็นการล่วงหน้า ปัจจุบันการเตรียมการมีความคืบหน้าในทุกด้าน รอเพียงแค่ผลผลิตลำไยออกก็พร้อมที่จะเดินหน้าทันที