SHARE

คัดลอกแล้ว

อธิบดีธนารักษ์ เตรียมหาช่องลดค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ 50% พร้อมระบุเงื่อนไขผู้ประกอบการต้องไม่เลิกจ้างงาน ระบุ 2 แนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งทางบก

ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้ช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด- 19 โดยในส่วนของผู้ที่เช่าที่ราชพัสดุเพื่อที่อยู่อาศัย และทำการเกษตร กรมธนารักษ์ได้มีการเว้น เก็บค่าเช่าไปแล้ว 1 ปี สำหรับค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะช่วยลดภาระให้ผู้เช่าได้อย่างไร แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่มีการเลิกจ้างงาน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้อง การให้ผู้ประกอบการจ้างงานแรงงานไว้ให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีการลดเงินเดือนไปบ้างก็ดีกว่าเลิกจ้าง
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า การลดค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ อาจจะมีการลดค่าเช่าให้ 50% แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ที่ได้ลดค่าเช่าจะต้องไม่เลิกจ้างงาน โดยมีเป้าหมายการเก็บรายได้ของกรมธนารักษ์ปี 2563 อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เป็นค่าเช่าที่ราชพัสดุประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการเก็บค่าเช่าที่ ราชพัสดุเพื่อที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรประมาณ 25% และเป็นค่าเช่าที่ราชพัสดุเพื่อการพาณิชย์ประมาณ 75% ซึ่งการเก็บรายได้ของกรมธนารักษ์ได้รับผลกระทบจากการออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโควิด แต่ยังเชื่อว่ายังเก็บได้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภายหลังรับหนังสือร้องเรียนจากสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการในภาคการโลจิสติกส์ได้รับผลกระทบต้องหยุดกิจการและเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมากว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ แบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ
1. แนวทางการ ให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า โดยการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้ปล่อยกู้ไปแล้ว 7 หมื่นล้านบาท จึงยังมีวงเงินเหลือเพียงพอ และซอฟต์โลนของธนาคารออมสิน วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ผู้ประกอบการโลจิสติกส์สามารถไปใช้วงเงินดังกล่าวเพื่อเสริมสภาพคล่องได้
2. ระยะฟื้นฟู ซึ่งถือเป็น ช่วงสำคัญ จะมีมาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีการปรับตัวเพื่อรับกับรูปแบบธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และจะมีการประสานงานกับกระ ทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกระทรวงอุตสาหกรรมในการสร้างแพลต ฟอร์มเพื่อรวมรวบข้อมูลเรื่องการขนส่งของประเทศ
ด้านนายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถขนส่งของผู้ประกอบการในธุรกิจโลจิสติกส์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่หยุดกิจการ หรือเลิกจ้างพนักงานแล้ว 1.4 ล้านคัน โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ประกอบการขนส่งโดยสาร ซึ่งไม่เกี่ยวกับ บขส.-ขสมก. ที่ได้รับผล กระทบ 60-70% และผู้ประ กอบการที่ขนส่งสินค้าได้รับผลกระทบ 40-50% จากผู้ประกอบการโลจิสติกส์ในประเทศทั้งสิ้น 3 แสนราย

ที่มา : https://www.reic.or.th

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า