สปสช.เร่งวางระบบป้องกันทุจริต หลังพบคลินิกเอกชนโกงเบิกจ่าย 2,473,600 บาท 

อนุทิน สั่งการ สปสช.ขยายตรวจสอบเบิกจ่ายคลินิกเอกชนทั่วประเทศ ย้ำให้เร่งวางระบบป้องกันทุจริต หลังพบมีการทุจริตต้องเรียกเงินเบิกจ่ายค่าคัดกรองสุขภาพคลินิกชุมชนคืนกว่า 2,473,600 บาท 

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 11 ก.ค.2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการตกแต่งข้อมูลเพื่อเบิกจ่ายค่าบริการคัดกรองสุขภาพของคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่งว่า เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้สั่งกำชับให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการถึงที่สุด ทั้งในคดีแพ่ง คดีอาญา และจรรยาบรรณวิชาชีพ เพราะเป็นการทุจริตต่องบประมาณประเทศ ทุจริตภาษีประชาชน อีกทั้งงบประมาณนี้ยังต้องใช้เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนด้วย

ทั้งนี้บอร์ด สปสช. ได้รายงานการขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมในคลินิกเอกชน พบข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ 86 แห่ง และพบข้อมูลไม่ถูกต้อง 63 แห่ง เป็นจำนวนเงินที่ต้องเรียกคืน 2,473,600 บาท ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ สปสช. ขยายการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินในหน่วยบริการทุกแห่งทั่วประเทศ

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า การที่ สปสช. ตรวจพบการทุจริตของหน่วยบริการ จึงได้ปรับขั้นตอนการรับบริการเพิ่มเติม ด้วยการเพิ่มระบบยืนยันตัวบุคคลโดยใช้ Smart card reader หรือ Application เพื่อยืนยันตัวตนการเข้ารับบริการ ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบรวดเร็ว พร้อมยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ตรวจสอบเข้มงวดในทุกเรื่องในหน่วยงาน ไม่ให้มีการทุจริตโดยเด็ดขาด