กรมการแพทย์แผนไทยฯ รับรอง ‘น้ำมันสกัดกัญชา’ สูตรเดชา ศิริภัทร

น้ำมันกัญชา

รับรองแล้วน้ำมันกัญชาสูตร อ.เดชา เป็นตำรับยาหมอพื้นบ้าน เตรียมส่งอย.พิจารณาขั้นตอนสุดท้าย หากได้รับการรับรองจะสามารถปรุงยาแจกจ่ายได้ทันที แต่เฉพาะกับผู้ป่วยในชุมชนเท่านั้น

วันที่ 13 มิ.ย.2562 วานนี้มีการประชุมคณะกรรมการด้านการประเมินรับรองตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาและกระท่อมและการใช้ยาแผนไทย ที่มีกัญชาและกระท่อมปรุงผสมอยู่ในหน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐและเอกชน โดยที่ประชุมได้พิจารณาตำรับยาที่มีกัญชาปรุงผสมเฉพาะรายของหมอพื้นบ้าน และน้ำมันกัญชาสูตรของนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการหารือนอกรอบถึงเรื่องของการปรับปรุงสูตร โดยมีมติรับรองตำรับยาหมอพื้นบ้านที่มีกัญชาผสมอยู่รวม 8 ตำรับ ซึ่งรวมถึงตำรับของนายเดชาด้วย

น้ำมันกัญชา

นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า จากนี้ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเป็นประธาน หากเห็นชอบก็ต้องส่งให้ อย.พิจารณาเป็นด่านสุดท้าย ทหากน้ำมันสกัดกัญชาของนายเดชา ได้รับการรับรองเป็นตำรับยาพื้นบ้าน ก็สามารถปรุงรักษาได้เฉพาะราย ในพื้นที่ชุมชนเท่านั้นแต่หากต้องการให้มีการใช้ยาโดยทั่วไป ต้องบรรจุเข้าเป็นบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งต้องผ่านการวิจัยประสิทธิผลด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อน

เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี

ทั้งนี้ น้ำมันกัญชาสูตร “เดชา ศิริภัทร” ที่ผ่านการรับรอง เป็นสูตรที่สกัดและผสมด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีผู้ป่วยร่วมลงชื่อเพื่อเข้าร่วมโครงการวิจัยการใช้น้ำมันสกัดกัญชา สูตร “เดชา ศิริภัทร” รวมกว่า 4 หมื่นราย และมีการจัดกิจกรรม”เดินเพื่อผู้ป่วย กัญชารักษาโรค” รวม 20 วัน มีผู้ระดมทุนสนับสนุนการผลิตและวิจัย เป็นเงินเกือบ 5 ล้านบาท ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ภายหลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้บุกจับกุม และยึดต้นกัญชา และดำเนินคดีกับมูลนิธิข้าวขวัญในช่วงเดือนเมษายนที่่ผ่านมา ในระหว่างที่มีการเปิดนิรโทษกรรม ให้จดแจ้งการครอบครองกัญชา

ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว ผลักดันให้เกิดการศึกษาวิจัยสูตรน้ำมันสกัดกัญชาของนายเดชา โดยมีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และสถาบันการศึกษา หลายแห่ง เช่น คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และมหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกันเก็บข้อมูลการรักษา และสูตรตำรับยาเพื่อให้เกิดมาตรฐานและความปลอดภัยในการใช้ ก่อนหน้านี้ มีตำรับยาไทยที่มีกัญชาผสมอยู่รวม 16 ตำรับ ที่สามารถใช้ได้ทั่วไปในแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนไทยประยุกต์ (แต่ยังไม่ได้บรรจุเป็นบัญชายาหลักแห่งชาติ) ซึ่งจะต้องมีการวิจัยและทดลองใช้ จนเห็นประสิทธิภาพ ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยฯคาดว่า ตำรับยา 2 ตำรับ ใน 16 ตำรับ ที่จะนำมาใช้ก่อน คือ 1. ตำรับยาสุขไศยาสน์ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ช่วยเรื่องการผ่อนคลาย นอนหลับ แก้ปวดและคลายเครียด และ 2. ตำรับยาน้ำมันสนั่นไตรภพ โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งใช้ในมะเร็งที่ทำให้มีอาการท้องมาร หรือบวมโต นำมาทาและนวดเพื่อให้ท้องยุบ คลายอาการเกร็ง ทำให้คนไข้ไม่อึดอัด หายใจสะดวกขึ้น และทานข้าวได้ และรักษาอาการอัมพาต อัมพฤกษ์ได้บางส่วน โดยทั้ง 2 ตำรับยานี้ จะนำกัญชาของกลางที่ได้จาก ป.ป.ส.ซึ่งไม่มีสารปนเปื้อนและโลหะหนัก จำนวน 7 กิโลกรัม ไปผลิตก่อน โดยคาดว่าจะเริ่มเดินหน้าได้ปลายเดือนนี้.)