‘ธรรมนัส’ เชื่อม็อบต้านนายกฯ-ประวิตร สะท้อนความเห็นต่าง ที่ต้องนำไปศึกษาและแก้ไขอย่างยั่งยืน

‘ธรรมนัส’ ลงพื้นที่น้ำท่วม เชื่อม็อบ ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ สะท้อนความเห็นต่างที่ต้องนำมาศึกษา ยืนยัน ส.ส.พลังประชารัฐ 99% รักกันและทำงานเป็นทีมเวิร์ค

วันที่ 16 ต.ค. 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง บริเวณชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางซื่อ มอบถุงยังชีพให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ในชุมชนวัดบางโพ และชุมชนราชทรัพย์ ที่วัดบางโพ และรับฟังความเดือดร้อนจากประชาชน พร้อมสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพี่นางเธอสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรถ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของชาวชุมชนบางโพ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีมวลชนบางส่วนต่อต้าน ว่า

ในฐานะที่เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐคิดว่า การต่อต้านเป็นเรื่องการเมือง ที่มักจะมีกลุ่มต่อต้าน ตัวเราเองเมื่อเข้าสู่การเมืองมักจะพูดเสมอว่า ต้องยอมรับความคิดเห็นต่าง และนำสิ่งนั้นมาแก้ไข ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เหมือนที่พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ไม่ได้รู้สึกอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นหากเป็นความรู้สึกว่าประชาชนต้องการอย่างหนึ่ง ก็ต้องนำมาศึกษาว่าต้องการอะไร ถือเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปมองว่าคนที่เห็นต่างจะเป็นศัตรู อย่าไปทำอย่างนั้น นี่คือธรรมชาติของบ้านเมืองเรา จึงต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือคนกลางวัย นำมาศึกษาและแก้ไข จะดีกว่า
ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกรณีพล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี แล้สเจ้าหน้าที่พยายามกีดกันประชาชนบางส่วนที่ต้องการเข้าถึง

“ไม่ทราบเพราะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้น ผมไม่เห็น แต่ถ้าผมเดินทางไปกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรามักจะพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันก็เหมือนยิ่งไปห้าม” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 99% รักกัน ยืนยันว่าเรารักกัน จะสังเกตได้ว่าเวลาเราทำอะไรจะทำเป็นทีม แท็กทีมกัน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ ต้องยึดหัวหน้าเป็นที่ตั้ง การทำงานต้องทำงานทีมเวิร์คเราต้องไปด้วยกัน มีหลายคนที่ทำงานให้พรรคพลังประชารัฐ เป้าหมายคือเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เพราะฉะนั้นศัตรูการเลือกตั้งทางการเมือง ไม่ใช่พลังประชารัฐด้วยกัน แต่ต้องมองว่าเราจะไปสู้กับศัตรูข้างหน้ากันอย่างไร

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าพรรคใดเป็นศัตรูทางการเมือง เมื่อลงสู่สนามเลือกตั้งนั้นคือเราออกสนามรบแล้ว จะทำอย่างไรให้ชนะใจชาวบ้าน ให้มากาพรรคพลังประชารัฐ เราไม่ได้มองเป็นศัตรู เพราะเมื่อถึงสนามเลือกตั้ง นั่นคือสนามรบทางการเมือง เราจึงต้องมียุทธศาสตร์ และวิธีอย่างไรที่จะเอาชนะ เอาเสียงมาให้ได้
พรรคการเมืองเวลาสู้กันในสนาม มีไม่กี่พรรค เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่จะสู้กันอย่างหนัก ไม่ได้มองว่าเป็นก้าวไกลพรรคเดียว