SHARE

คัดลอกแล้ว

พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามกรณี ผบ.ทบ.เข้าพบนายกฯ ยืนยันไม่มีปฏิวัติซ้อน ขณะที่กลาโหมแจงย้ายยุทโธปกรณ์ ขอประชาชนอย่าตืนตระหนก  

วันที่ 31 พ.ค.2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่าทหารจะทำการปฏิวัติรัฐประหารซ้ำว่า ไม่มีอะไร สื่อยืนยันเอง ไม่มีหลอก ไม่มีอะไร พร้อมกันนี้ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีพล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ช่วงนี้มีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ของกองทัพซึ่งเป็นการปฎิบัติภารกิจการฝึกตามวงรอบประจำปี ขอประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะเป็นเรื่องปกติ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ทั้งนี้ มองว่าการเรื่องการปฏิวัติเป็นการปล่อยข่าว ซึ่งการรับฟังข้อมูลข่าวสารจะต้องมีการกลั่นกรองและใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลว่าเรื่องใดเป็นเรื่องจริง หรือเท็จ วันนี้สังคมปั่นป่วนเพราะการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ พร้อมเตือนคนที่ปล่อยข่าวลือ จะมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ดำเนินการกับการเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นจริง ใครทำอะไรหรือโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นจริงจะเป็นหลักฐานที่จะนำไปดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้ ส่วนเว็บไซต์ที่มีข้อมูลไม่น่าเชื่อถือก็ไม่ควรนำมาแชร์ต่อ

https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/2343228945735550

ขณะที่ก่อนหน้านี้พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการกระแสข่าวพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะใช้อำนาจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยุบพรรคการเมือง ทำให้ ส.ส. 500 คน พ้นสภาพ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยมีผู้ไม่หวังดีพยายามสร้างข่าวเท็จเพื่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายในช่วงจัดตั้งรัฐบาล และลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรับทราบเรื่องดังกล่าว และขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวที่ไม่มีที่มาที่ไป พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเร่งชี้แจงทำความเข้าใจแก่สังคม โดยยืนยันว่าไม่มีแนวคิดเช่นนั้น เพราะนายกรัฐมนตรีเคารพกฎหมายและฟังเสียงของประชาชน

ขณะนี้เป็นขั้นตอนของพรรคการเมืองจึงต้องรอความชัดเจน นอกจากนี้ยังเตือนผู้ไม่หวังดีให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว โดยรัฐบาลจะสืบหาต้นตอของข่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/2343975085660936

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า