หลักเกณฑ์การประกบคู่มวย และการดูแลความปลอดภัยนักชก 10 Fight 10 ของเวิร์คพอยท์

กลายเป็นอีกหนึ่งรายการขวัญใจของใครหลายคน สำหรับ 10 Fight 10 ที่นำดาราระดับแถวหน้าของประเทศมาขึ้นสังเวียน ชกกันจริงๆ เจ็บกันจริงๆ ภายใต้มาตรการดูแลความปลอดภัยที่รัดกุม

โดย กิรติยา ศิริชัยพัฒนา ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ (Assistant Producer) ของ 10 Fight 10 ได้บอกว่า ความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เป็นสิ่งที่ทางรายการให้ความสำคัญมากที่สุด ฉะนั้นจึงมีมาตรการป้องกันและดูแลนับตั้งแต่มีการเซ็นสัญญาเข้าร่วมรายการ ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นหลายเดือน และมีการทำประกันชีวิตให้กับทุกคน

“ประกันทุกอย่างเราทำให้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นดารามาชกกัน ไม่ใช่นักมวยอาชีพ ฉะนั้นเรื่องพวกนี้จึงต้องมีการป้องกัน ประกันตั้งแต่วันเซ็นสัญญา ระยะเวลา 1 ปี ไม่ใช่เฉพาะการแข่งขัน คือนอกเหนือการแข่งขันแล้ว จะเกิดอุบัติเหตุตอนไหน เขาสามารถใช้ประกันส่วนนี้ได้เลย”

รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน ก็จะต้องได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นขนาดและน้ำหนักของนวม ความหนาของเฮดการ์ดที่ใช้ป้องกันใบหน้าของทั้งสองฝ่าย

“เรื่องพวกนี้เรามีเตรียมการไว้หมด นวมบางก็ไม่ให้ใส่ คือเขาต้องชกจริง แต่เขาต้องปลอดภัยที่สุด” กิรติยา ยืนยัน

การประกบคู่ชก สิ่งสำคัญคือทั้งสองฝ่ายตกลงพร้อมสู้กัน

ประเด็นของการประกบคู่ชก กิรติยากล่าวว่า มีทั้งที่ทางรายการส่งรายชื่อไปให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเลือก รวมถึงผู้เข้าแข่งขันระบุมาเองว่า ต้องการขึ้นชกกับใคร โดยจะมีการพิจารณาน้ำหนักของทั้งสองฝ่าย ก่อนกำหนดเรตน้ำหนักที่ชัดเจนไว้เป็นเกณฑ์ ในวันแข่งขัน หากฝ่ายใดมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ ก็จะถูกหักแต้ม เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน

โดยก่อนการแข่งขันประมาณ 3 เดือน นักมวยทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องฝึกซ้อม ควบคุมอาหาร ตามคำแนะนำและดูแลของโค้ช เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

สุดท้ายนี้ กิรติยากล่าวว่า “เรื่องมาตรการต่างๆ ในการดูแลความปลอดภัย ต้องบอกเลยว่าเราพยายามทำทุกอย่างให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ทุกคนได้รับความปลอดภัย จึงอยากให้ผู้ชมมั่นใจตรงนี้ เพราะเราตระหนักมาโดยตลอดว่า ความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมแข่งขัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

สนามมาตรฐาน-กรรมการมวยอาชีพ

และเนื่องจากเป็นรายการสด เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด นอกจากจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยที่รัดกุมแล้ว ยังต้องมีการซักซ้อมล่วงหน้าอีกด้วย โดยกิรติยากล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนนี้ว่า “เหมือนสนามมวยอาชีพเลยค่ะ มีแพทย์สนาม มีพยาบาล มีรถพยาบาล มีอุปกรณ์ต่างๆ ในด้านการดูแลความปลอดภัยอย่างครบครัน รวมถึงได้มีการซักซ้อมแล้วว่า ถ้าเกิดเหตุฉุนเฉินขึ้น เราจะทำอย่างไร”

ส่วนกรรมการบนเวที ทุกคนมีใบรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการอาชีพที่มีประสบการณ์จึงสามารถพิจารณาได้ว่าควรยุติการชกเมื่อใด อย่างการแข่งขันที่ผ่านมา เมื่อกรรมการเห็นว่า หากให้ชกต่อไป อาจเกิดอันตรายกับผู้เข้าแข่งขัน จึงตัดสินใจให้ยุติการชก เป็นต้น

ซึ่งจากการที่ทางรายการได้เตรียมความพร้อมไว้แต่เนิ่นๆ มีการซักซ้อม เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด ทำให้ที่ผ่านมาสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที

“เราเตรียมการตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขันแล้ว เพราะพวกเขาไม่ใช่นักมวยมืออาชีพ ฉะนั้นทุกอย่างเราต้องเพิ่มเข้าไปให้มากกว่านักมวยอาชีพ และด้วยความที่พวกเขาเป็นนักแสดง เราจึงไม่ประมาทเลย”